ปลาน้ำจืดนับแสนๆ ตัวตายเป็นเบือถูกซัดขึ้นมากองเต็มหาดทะเลสาบ โคโรนีอา หนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดของประเทศกรีซ
เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมประจำเมือง เทสซาโลนิกี เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของกรีซ ระบุว่า ทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปทางตะวันออกราว 30 กิโลเมตร ประสบปัญหาปริมาณน้ำลดลงมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เหลือระดับความลึกเพียง 80 เซนติเมตรแล้วในเวลานี้
การที่ปริมาณน้ำลดลงมากดังกล่าวส่งผลให้ปลาจำนวนมากตายลง อาทิ ปลาคาร์ป, ปลาซันฟิช (ปลาในตระกูลเดียวกับปลากระพงน้ำจืด), ปลาบีค และปลาน้ำจืดอื่นๆ อีกหลายชนิด
ดิมิตรา โบโบรี รองศาสตราจารย์ด้านชีววิทยา ประจำมหาวิทยาลัยแห่งเทสซาโลนิกี ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของทะเลสาบแห่งนี้ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำในทะเลสาบลดลงต่ำกว่าปริมาณวิกฤต เร่งให้ปลาเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สาเหตุเป็นเพราะอุณหภูมิของอากาศสูง ออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำได้น้อยลง ในขณะที่น้ำก็หลงเหลือในปริมาณจำกัดแล้ว ทางการกำลังตรวจสอบสภาพของปลาเหล่านี้และนำน้ำไปตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อดูว่ามีสภาพเป็นพิษหรือไม่เพราะอากาศร้อนทำให้น้ำเกิดมลพิษได้ง่ายอีกด้วย
โพรโมดอส ซานิส ศาสตราจารย์ด้านอุตุนิยมวิทยาและภูมิอากาศวิทยา จากมหาวิทยาลัยแห่งเทสซาโลนิกี ตั้งข้อสังเกตว่า ทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้เดิมครอบคลุมพื้นที่ถึง 11,000 เอเคอร์ ตอนนี้หดตัวลงเหลือเพียงแค่ 1 ใน 3 ของขนาดแต่เดิม
ระดับน้ำในทะเลสาบเคยหยุดนิ่งอยู่ที่ระดับ 3 เมตรเมื่อปี 2015 แต่หลังจากนั้นหน้าร้อนมีแต่จะยาวนานขึ้น และยังร้อนมากขึ้นทุกๆ ปี
“ในช่วง 20 ปี หลังมานี้ต้องสงสัยเลยว่าในพื้นที่นี้คือบริเวณที่มีอากาศร้อนกว่าที่อื่นๆ และมีแนวโน้มเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ในอนาคต” ศาสตราจารย์ซานิสเสริมว่า เมื่อพิจารณาในเชิงสถิติแล้ว ปรากฏการณ์ร้อนดังกล่าวนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์นั่นเอง
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นหนึ่งในเครือข่ายพื้นที่ธรรมชาติภายใต้การคุ้มครองของสหภาพยุโรปและทางการกรีซก็พยายามดำเนินการทุกอย่างเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของทะเลสาบเอาไว้ ตั้งแต่การห้ามจับปลาชั่วคราว, การผันน้ำสู่ทะเลสาบ, รงมถึงการห้ามทิ้งของเสียจากโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง เพื่อป้องกันไม่ให้ทะเลสาบแห่งนี้ “ตาย” ไปแต่ก็ไม่เป็นผล
นิโคลาออส รอสซิอัส ชาวบ้านในหมูบ้านอากิออส วาสซิลิส ริมทะเลสาบ บอกว่า ปรากฏการณ์นี้ทำลายเศรษฐกิจของหมู่บ้านโดยรอบไปด้วย ก่อนหน้านี้เคยมีภัตตาคารปลาให้เลือกอยู่มากมายถึง 10 ภัตตาคารริมทะเลสาบ
ตอนนี้หลงเหลือแค่แห่งเดียว พร้อมกับกลิ่นซากปลาคละคลุ้ง
