ฝากขังโชเฟอร์แจ๊สแดงฝ่าด่าน หนีหมายจับคดีขี่จยย.หนี ชนรถกระบะตำรวจเสียหลัก ฮึดต่อยสู้ตำรวจก่อนโดนจับ ไร้เงาคนประกันคอตกนอนคุก
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.จักรพันธ์ ส่งเสริม พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน นำตัว นายวสันต์ เชื้อจีน อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุขับรถยนต์ ฮอนด้าแจ๊ส สีแดง ฝ่าด่านตรวจและยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 507/2562 คดีหมายเลขดำที่ ยฝ.931/2562 ลงวันที่ 10 ก.ค. 2562 ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยผิดกฎหมายและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่และอื่นๆ มาฝากขังศาลครั้งแรก
โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนการจับกุมในคดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีบุคคลตามหมายจับ เมื่อช่วง ก.ค.62 ได้ก่อเหตุขับรถยนต์แจ็สสีแดงทะเบียน 5กข8292 กรุงเทพฯ แหกด่านจุดตรวจของสน.วัดพระยาไกร บริเวณจุดตรวจจราจรถนนเจริญราษฎร์ แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ ได้ปรากฎตัวที่ประชาชื่นซอย 4 ตำรวจจึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบพบ นายวสันต์ ผู้ต้องหา กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับของศาล จากนั้นผู้ต้องหาตกใจและได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแอลเอส125 ทะเบียน8กจ 6886 กทม. เพื่อที่จะหลบหนี และได้พุ่งชนกับรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้รับความเสียหาย จากนั้นรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาได้เสียหลักล้มลง แต่ผู้ต้องหาได้ลุกขึ้นมาและพยายามจะวิ่งหลบหนี และต่อสู้ชกต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจจน ด.ต.วรพจน์ พิลาคุณ ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ได้
ต่อมาผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับเรื่องที่ยาเสพติดและอาวุธปืนรวมถึงเรื่องที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร โดยผู้ต้องหายอมรับว่ามียาเสพติดและอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในห้อง จึงได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นที่ห้องพักอพาร์ทเมนท์เจริญสุข ประชาชื่นซอย 4 ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบยาไอซ์ชนิดเกร็ดสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดเลื่อนเปิดจำนวน 1 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุงประมาณ 1.22 กรัม และยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดเลื่อนเปิดจำนวน 1 ถุง 2 เม็ดอยู่บริเวณโต๊ะกลางที่ตั้งอยู่กลางห้องและพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอยู่ในลิ้นชักตู้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของผู้ต้องหาที่ศูนย์สาธารณสุข 3 บางซื่อ ผลปรากฏว่าพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย
เหตุเกิดที่ บริเวณหน้าอพาร์ทเมนท์เจริญสุขประชาชื่นซอย 4 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562 เวลาประมาณ 21. 00 น.
ในชั้นจับกุม และชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะต้องรอสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. ถึง 2 พ.ย.นี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ความผิดตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7 (1), 15 วรรคสาม (2), 57, 66 วรรคสอง, 91, 102 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 มาตรา 4 และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ.2561 และแก้ไขเพิ่มเติม โดยพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 8, 19, 26 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2560 มาตรา 3 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 มาตรา 13 และพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2542 และพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 157/1 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 และตามพ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4 (1) (2), 7, 8, แก้ไข เพิ่มเติม โดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ข้อ 3 พ.ศ.2519, 72 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติม โดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ข้อ 6 พ.ศ.2519 และ 72 ทวิวรรคหนึ่ง
ศาลพิจารณคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ขณะที่การฝากขังนายวสันต์ผู้ต้องหาวันนี้นั้นไม่ปรากฎว่ามีญาติ มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้คุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป
