เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำตัวนายธีรณัฐ มหัทธโนบล อายุ 19 ปี ชาว จ.ปัตตานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 606/2562 ลงวันที่ 27 ต.ค. 62 ข้อหา “กระทำการโดยมิชอบ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ขัดขวาง หรือ รบกวน จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ตาม มาตรา 10 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550” มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. – 10 พ.ย. เนื่องจากกระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยยังจะต้องสอบพยานอีก 4 ปาก, รอผลตรวจพิสูจน์ของกลางในคดี, รอผลตรวจของกลางและผลตรวจพิมพ์มือผู้ต้องหาด้วยความจำเป็นดังกล่าว
โดยคำร้องพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ด้วยเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย นายกิตติ งามศิลปะเสถียร ผู้รับมอบอำนาจ( ผู้เสียหาย) มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวนว่า เมื่อประมาณเดือน ต.ค. รัฐบาลได้มีโครงการชิมช้อปใช้ และรัฐบาลได้มอบหมายให้ ธนาคารกรุงไทยฯ เป็นผู้จัดทำระบบคอมพิวเตอร์ โดยจัดทำเว็บไซต์เพื่อเปิดรองรับการลงทะเบียนของประชาชน ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ต.ค. มีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2 เมื่อเปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนลงทะเบียนปรากฏว่าระบบขัดข้องล่าช้าทำให้ประชาชนไม่สามารถลงทะเบียนได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของธนาคารฯจึงทำการตรวจสอบพบเว็บไซต์ ชื่อ www. understop. com กดเข้าคิวลงทะเบียนชิมช้อปใช้จำนวนหลายครั้งติดต่อกัน จากการวิเคราะห์ พบว่าเป็นเพราะเว็บไซต์ดังกล่าวที่ทำให้การทำงานของเว็บชิมช้อปใช้ทำงานหน่วงเวลา ระบบทำงานผิดปกติ จึงได้ตรวจสอบที่มาของ www. understop. com พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเฟซบุ๊กของ นายธีรณัฐ (ผู้ต้องหา) และเมื่อวันที่ 6 ต.ค. เวลา 02. 02 น. ได้มีการโพสต์ต้นฉบับ หรือโค้ดโปรแกรมของ www. understop. com ลงบนหน้าเฟซบุ๊กของผู้ต้องหาซึ่งมีไว้สำหรับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ชิมช้อปใช้ โดยมีเจตนาทุจริต เพื่อให้มีโอกาสลงทะเบียนมากกว่าประชาชนทั่วไป จนได้สิทธิการลงทะเบียน ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อระบบในภาพรวม ซึ่งจะทำให้ประชาชนและทางธนาคารฯได้รับความเสียหาย
เหตุเกิดที่ ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ระหว่างวันที่ 2-25 ตุลาคม 2562 ต่อเนื่องกัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 10
ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่อัตราโทษสูง หากให้ประกันเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ประกันตัว
