เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการตรวจคนเข้าเมือง ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ภูเก็ต นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) และเรือยนต์ตรวจการณ์ ออกตรวจสอบเรือสำราญสัญชาติอิตาเลียน ชื่อเรือ M.V.COSTA FORTUNA ซึ่งเข้าทิ้งสมอที่อ่าวป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า เรือสำราญลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 1,631 คน โดยเป็นสัญชาติอิตาเลียน 173 คน ทั้งนี้ จากการตรวจวัดไข้จากหัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต ไม่มีผู้โดยสารและลูกเรือมีอาการไข้แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรือสำราญลำดังกล่าวมีผู้โดยสารสัญชาติอิตาเลียน จำนวน 64 คน ที่เดินทางออกจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดต่อโรคอันตราย กรณีติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งยังไม่ครบระยะเวลาฟักตัวของเชื้อไวรัสโคโรนา คือ 14 วัน หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต จึงไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดลงจากเรือ ตม.จว.ภูเก็ต จึงปฏิเสธเข้าเมือง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ม.12 (5) ประกอบ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 40
พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางนโยบายของรัฐบาล และข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ที่ให้เข้มงวดกวดขันและตรวจตราตามกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยยึดความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทยเป็นสำคัญ ซึ่งจากการที่ผู้โดยสารสัญชาติอิตาลีดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศอิตาลี ยังไม่ครบระยะเวลาฟักตัวของเชื้อไวรัสโคโรนา คือ 14 วัน ประกอบกับอิตาลี เป็นประเทศตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดต่อโรคอันตราย ทาง ตม.จว.ภูเก็ต ได้หารือกับทางผู้บังคับบัญชา โดยทาง พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. ซึ่งได้รับทราบข้อมูลกรณีดังกล่าว และได้หารือกับแพทย์ใหญ่ กระทรวงสาธารณสุข โดยเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะต้องดำเนินการตามวิธีการดังกล่าว เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว เพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยง และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
