ตร.ทางหลวงยันจับ2พม่าหอบ 16 ล้านเป็นไปตามขั้นตอนกม.ไร้เอกสารค้าน้ำมันปตท.

ตร.ทางหลวงเผยจับสองเมียนมาหอบเงิน 16 ล้านบาทเป็นไปตามขั้นตอนกม.ไร้เอกสารยันค้าน้ำมันกับปตท.โอนคดีไปกองปราบแล้ว ย้อนถามหากผิดกระบวนการศาลไม่รับฝากขัง

จับเงินสด16ล้าน-กรณีตำรวจทางหลวงจับกุมนายเดด ไป่อู และ น.ส.นามิทู สองชาวเมียนมา พร้อมเงินสด 16,500,000 บาท เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนที่นักธุรกิจค้าน้ำมันชาวเมียนมา ผู้เป็นนายจ้างจะไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.แม่สอด เนื่องจากสั่งให้ทั้งคู่นำเงินดังกล่าวมาโอนให้กับบริษัท ปตท.ที่ธนาคารในประเทศไทย เพราะธนาคารฝั่งเมียนมาปิดทำการ โดยอ้างว่าตำรวจได้เรียกเงินสินบนเป็นจำนวน 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผู้กำกับการกองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง(ผกก.5.บก.ทล.)เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้กล่าวอ้างว่าตำรวจเรียกรับเงินนั้น ไม่ได้เป็นข้อมูลที่ออกมาจาก 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมา แต่ทราบจากข่าวว่าเป็นข้อมูลที่มาจากกลุ่มบุคคลที่ไปให้ข่าวตอนแจ้งความว่าลูกจ้างหายตัวไปที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก หากมีหลักฐานใดที่ระบุว่าตำรวจเรียกรับสินบนจริง ก็ต้องนำมาแสดงให้เห็นทั่วกัน เพราะข้อมูลนี้เป็นเพียงคำกล่าวอ้าง

พ.ต.อ.แมน กล่าวต่อว่า ตำรวจมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานการจับกุมตั้งแต่ต้น ซึ่งผู้ต้องหามีเพียงพาสปอร์ต เอกสารการขอผ่านแดน และสมุดบัญชีธนาคารภาษาเมียนมาเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเอกสารการทำธุรกิจกับ ปตท.ตามที่อีกฝ่ายอ้างว่ามีแต่ตำรวจไม่ตรวจสอบ อีกทั้งตอนจับกุม ก็ไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการผู้ต้องหา โดยให้มาช่วยตำรวจนับเงินที่เจ้าตัวได้ขนมาดังกล่าว ซึ่งสองผู้ต้องหาก็สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ แต่ไม่สามารถระบุที่มาที่ไปของเงินได้ ซึ่งตอนแรก ตำรวจทางหลวงก็จะทำสำนวนส่ง สภ.แม่สอด ท้องที่เกิดเหตุ แต่เมื่อรายงานผู้บังคับบัญชาระดับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ก็มีคำสั่งโดยตรงให้โอนคดีไปที่กองกำกับการ 4 กองปราบปราม ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 17 จังหวัดในภาคเหนือ พร้อมส่งตัวผู้ต้องหากับเงินทั้งหมดไปกองปราบ โดยตำรวจทางหลวงได้แจ้งข้อหานำเข้าเงินไทยโดยไม่ผ่านพิธีกรมศุลฯ ทั้งนี้ หากดำเนินการไม่ถูกขั้นตอนตั้งแต่ต้น ศาลอาญาก็ไม่สามารถรับฝากขังจนทำให้ฝ่ายเจ้านายชาวเมียนมาต้องไปขอประกันตัวในวันนี้

ส่วนกรณีที่ทนายความให้สัมภาษณ์โดยอ้างว่าตนเองได้ติดต่อไปหานายดาบตำรวจเพื่อขอไม่ให้แถลงข่าวนั้น พ.ต.อ.แมน กล่าวยืนยันว่า ตำรวจทางหลวงไม่ได้จัดแถลงข่าว แต่ภาพที่ปรากฎ เป็นภาพการจับกุมที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ส่งรายงานผู้บังคับบัญชา หากมีหลักฐานการติดต่อกับตำรวจเพื่อขอไม่ให้แถลงข่าวจริงๆ ก็ต้องนำมาแสดง จากนี้ตำรวจกองปราบก็จะรับผิดชอบทางด้านคดีต่อไป โดยยังมีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มาร่วมตรวจสอบด้วย เนื่องจากการกระทำเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ก่อนที่จะนำเงินของกลางทั้งหมดกลับเข้าสู่พิธีด่านศุลกากรอีกครั้ง เนื่องจากความผิดได้สำเร็จแล้ว

Advertisement

ขณะที่ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหา ก็ได้รายงานให้ตนได้ทราบ จึงสั่งการให้ถ่ายภาพหมายเลขธนบัตรทุกใบไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าของกลางจะไม่เล็ดลอดหลุดหายไปได้ ซึ่งตนเองเป็นผู้สั่งการให้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปสอบสวนขยายผลต่อที่กองบังคับการปราบปรามตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากจำนวนเงินที่มาก แต่ไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ มีพฤติการณ์น่าสงสัย

รายงานแจ้งว่า การขนเงินดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในท้องที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าข่าวที่ได้รับการเผยแพร่จากส่วนกลางกับภูมิภาคออกไปคนละทิศทาง จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องโอนย้ายคดีไปยังส่วนกลางเพื่อดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image