อธิบดีราชทัณฑ์ สั่งผบ.คุกปท.ปรับแผนความปลอดภัย เข้มเรือนจำกลุ่มลาดยาว 24 ชม.
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยของเรือนจำหลังเกิดเหตุเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ว่า ภาพรวมการดูแลความปลอดภัย ก็ได้สั่งการให้ชุดปฎิบัติการพิเศษของส่วนกลาง และ เรือนจำลาดยาว เขต 10 ทั้งหมด วางมาตรการการดูแลความปลอดภัยของเรือนจำอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงติดกล้องวงจรปิดรอบแนวของเรือนจำทั้งหมด
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำป้อมรักษาการ ขณะเกิดเหตุเผาทำลายทรัพย์สินเช้ามืดวันที่ 28 ก.พ.นั้น ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่าปฎิบัติหน้าที่บกพร่องก็จะต้องรับผิดชอบ และกรมราชทัณฑ์
ได้ปรับแผนการดูแลความปลอดภัยจากเดิมที่ใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มาเป็นใช้เจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ในกลุ่มเรือนจำลาดยาว ทั้งของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เรือนจำคลองเปรม และ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มาสลับเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีชุดปฎิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์มาเป็นหัวหน้าชุด
ทั้งนี้้ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงนามส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่องกำชับมาตรการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ราชการและการเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุ
ระบุถึงสถานการณ์ปัจจุบันได้ปรากฏว่ามีสถานการณ์ความไม่สงบจากกลุ่มทางการเมืองเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ รวมทั้งได้เกิดเหตุลอบทำลายทรัพย์สินของเรือนจำ ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของเรือนจำแล้ว ยังส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์ของกรมราชทัณฑ์เป็นอย่างมาก กรมราชทัณฑ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงให้เรือนจำถือปฏิบัติ ดังนี้
ให้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกจุดในพื้นที่ของเรือนจำ โดยให้จัดหาจากเงินนอกงบประมาณส่วนหนึ่งส่วนใดของเรือนจำก่อน
2. การจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามรักษาการณ์ภายนอกเรือนจำ ให้มอบหมายเจ้าพนักงานเรือนจำปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกครั้ง
3. ให้เจ้าหน้าที่เวรยามรักษาการณ์หมั่นเดินตรวจตราบริเวณโดยรอบเรือนจำ และแนวกำแพงทั้งภายในและภายนอก
4. ให้เจ้าหน้าที่ใช้วิทยุสื่อสารตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความรวดเร็วในการติดต่อประสานงานเมื่อเกิดเหตุ
5. ให้หมั่นการตรวจตราและสังเกตพฤติกรรมบุคคลภายนอกและยานพาหนะที่เข้ามาในเขตพื้นที่อยู่เสมอ โดยจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ช่วยดูแลนอกเรือนจำ เน้นไปที่เรือนจำกลุ่มลาดยาว ถนนงามวงศ์วาน
นอกจากนี้วันเดียวกันนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังมีหนังสืออีกฉบับที่สั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำทุกแห่ง เข้มงวดกวดขันให้เรือนจำมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
และให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากมีการปล่อยปละละเลย ไม่ถือปฏิบัติ จนเกิดความเสียหายขึ้น จะถือเป็นความบกพร่องของผู้บัญชาการเรือนจำ และจะนำมาประกอบการพิจารณาในการบริหารงานของกรมราชทัณฑ์ต่อไป