“โบว์” เปรียบเทียบคดีราษฎร-คนอยากเลือกตั้ง หากตัวเองไม่ได้ประกันตัวจะติดคุกแล้ว 3 ปี ชี้สังคมร้อนขอให้ใช้เมตตาให้มาก
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เดินทางมาตามนัดสืบพยานโจทก์คดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุด ARMY57 กรณีชุมนุมเมื่อปี 2561 ต่อต้านรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลไม่ให้ประกันตัว 3 แกนนำกลุ่มราษฎรคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ว่า ตั้งแต่ตนต่อสู้มาเข้าปีที่ 7 ของการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง เช่น ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร เรียกร้องสิทธิประกันตัวนักโทษการเมือง รณรงค์ประชามติรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องการเลือกตั้ง เห็นว่าการคุมขังนักกิจกรรมระหว่างพิจารณาคดี เป็นอุปสรรคทั้งต่อพัฒนาการประชาธิปไตย และสุ่มเสี่ยงต่อการเสื่อมศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม เพราะสิทธิประกันตัวระหว่างพิจารณาคดีเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ไม่อาจถูกตัดทอนไปโดยง่าย แม้แต่ผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมร้ายแรงก็ยังได้สิทธินี้
นอกจากนี้ การที่จำเลยไม่ได้สิทธิประกันตัวระหว่างสู้คดียังสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้คนมากมาย ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง ผู้สนับสนุน เป็นการขยายรอยร้าวในสังคมโดยไม่จำเป็น ลองจินตนาการเปรียบเทียบกับพวกเราในคดีที่มาศาลในคดีนี้ ถ้าในวันส่งฟ้องเราไม่ได้สิทธิประกันตัว จนถึงวันนี้ครบ 3 ปี เพิ่งสืบพยานนัดแรก เท่ากับว่าจะติดคุกมาแล้ว 3 ปี โดยคดียังไม่เริ่มสืบ ถามว่าเป็นธรรมหรือไม่ นี่คือสิ่งที่นักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ในวันนี้อาจจะต้องเผชิญ วันนี้สังคมกำลังร้อน จึงขอให้ใช้ความเมตตาให้มาก เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในสังคมให้เป็นบรรยากาศแห่งการรับฟังกันได้มากขึ้น อย่าให้ความเจ็บปวดขยายตัวเป็นความโกรธแค้น เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีปลุกปั่นความเกลียดชัง จนก่อให้เกิดความรุนแรง นั่นคือสิ่งที่เราไม่อยากเห็นที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ น.ส.ณัฏฐา สวมชุดดำมาศาล ขณะที่มีรายงานว่ากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดทำกิจกรรม “ร่วมไว้อาลัยหน้าศาล” ร่วมกันใส่เสื้อสีดำ วางพวงหรีด และผูกโบว์ดำ ในวันนี้เวลา 16.00 น. ที่หน้าศาลอาญา
