สลด! ทนายรณณรงค์พาแม่เด็กร้อง ปคม. ลูกสาวออทิสติกวัย 8 ขวบ ถูกศูนย์รับเลี้ยงเด็กทารุณ

สลด! ทนายรณณรงค์พาแม่เด็กร้อง ปคม. หลังลูกสาวออทิสติกวัย 8 ขวบ ถูกศูนย์รับเลี้ยงเด็กทารุณ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร หรือทนายรณณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ดรุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ฉัตรามนตรี มหาพชราอรุณใหม่ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของศูนย์รับเลี้ยงกระตุ้นพัฒนาการเด็กใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแพทย์จิตเวชโรงพยาบาลรัฐชื่อดังย่านปทุมวัน และครูผู้ดูแล รวม 3 คน หลังพบว่าลูกสาววัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กออทิสติก ถูกทารุณกรรมระหว่างการฝากเลี้ยงอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าว และคาดว่ามีเด็กรายอื่นที่ถูกทารุณกรรมจากครูพี่เลี้ยงอีกนับสิบราย โดยก่อนหน้านี้มีการแจ้งความร้องทุกข์แล้ว แต่พบว่ามีผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซงโดยการพยายามจ่ายเงินทำให้เหยื่อหลายคนไม่เอาเรื่อง

น.ส.ดรุณีเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2563 ได้พาลูกสาวไปฝากเลี้ยงและกระตุ้นพัฒนาการที่ศูนย์ดังกล่าว ซึ่งช่วงแรกไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่งช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ที่มีการห้ามเข้าเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยจะเข้าเยี่ยมได้ต้องมีการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ทำให้ตนไม่สามารถเข้าเยี่ยมลูกได้ จนกระทั่งวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ได้ไปรับลูกเพื่อที่จะกลับต่างจังหวัด ครูที่ศูนย์ดังกล่าวได้แจ้งว่าลูกมีแผลที่ข้อเท้าเนื่องจากการแพ้ถุงทรายถ่วงน้ำหนักที่ลูกสาวต้องใส่เนื่องจากเป็นเด็กเดินเขย่ง แต่เมื่อถึงบ้านที่ต่างจังหวัด ตนได้ตรวจสอบแผลอย่างละเอียดอีกครั้งจนพบว่าลูกมีแผลที่ข้อเท้าข้างเดียว ทั้งที่ใส่ถุงทรายถ่วงน้ำหนักสองข้าง

น.ส.ดรุณีกล่าวว่า เมื่อพาไปอาบน้ำก็พบว่าลูกยังมีแผลตามร่างกายอีกหลายจุด รวมถึงที่ก้นและบริเวณอวัยวะเพศ ลักษณะเป็นแผลติดเชื้อ เมื่อสอบถามไปทางครูผู้ดูแลก็อ้างว่าไม่เคยเห็นและไม่เคยเปิดดูบริเวณก้นเด็ก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการแพ้ผ้าอ้อม แต่ส่วนตัวมองว่าลูกของตนดูแลตัวเองไม่ได้ ดังนั้น ผู้ดูแลควรจะเห็น หากไม่เห็นก็แสดงว่าไม่ได้ดูแลความสะอาดให้ลูกของตนเลย ซึ่งเมื่อพาลูกไปพบแพทย์ แพทย์ได้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากความไม่สะอาดของผ้าอ้อม

Advertisement

น.ส.ดรุณีกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุลูกของตนมีความหวาดกลัว หวาดระแวง ไม่พูด ไม่ส่งเสียง น้ำหนักลดลง ซึ่งครูอ้างว่าลูกไม่กินข้าว ทั้งที่เป็นเด็กกินเก่ง จึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี ทางเจ้าของก็มีการติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย และชดใช้ค่าเสียหายให้ตามที่เรียกร้อง อีกทั้งยังยอมรับว่ามีการผูกล่ามข้อเท้าลูกของตน เนื่องจากลูกอยู่ไม่นิ่งและครูต้องดูแลเด็กคนอื่น แต่ตนเองไม่ยอมรับเงื่อนไขและยืนยันจะดำเนินคดีเพราะรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวของผู้ดูแล อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้กับทางศูนย์ตกเดือนละกว่า 20,000 บาท โดยยังไม่รวมค่าผ้าอ้อมและยา ซึ่งหากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดน่าจะมากกว่า 300,000 บาท แต่ลูกกลับถูกทารุณกรรมเช่นนี้

ด้านทนายรณณรงค์เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายโดยการทารุณกรรม และแสวงหากำไรจากเด็ก ซึ่งหลังแม่เด็กแจ้งความ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ตรวจสอบศูนย์ดังกล่าวจนศูนย์ถูกสั่งปิดชั่วคราว แต่หลังจากนั้นตำรวจก็ไม่สามารถสอบปากคำผู้ปกครองของเด็กที่เหลือในศูนย์อีก 10 คนได้ เพราะผู้ปกครองของเด็กคนอื่นไม่ติดใจเอาความ จึงเชื่อว่าน่าจะมีเด็กถูกทารุณหลายคน แต่ทางศูนย์พยายามจ่ายเงินเพื่อปิดปาก จึงอยากให้ทาง บก.ปคม.รับทำคดีนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image