เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่จ.อุบลราชธานี สำนักงาน ป.ป.ส.จัดประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างกัมพูชา ลาวและไทย เดินหน้าปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง3ประเทศ โดยหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรี นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส คณะผู้แทนจากกัมพูชา นำโดย ฯพณฯ เกา คอนดารา รองประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกัมพูชา (NACD) หรือรองประธานคณะกรรมการ ป.ป.ส.กัมพูชา พล.ต.อ.เมียะส์ วิฤทธิ์ เลขาธิการ ป.ป.ส. กัมพูชา พล.อ.ชุม โสเจียต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และคณะผู้แทนจากลาว นำโดย ฯพณฯ กุ จันสินา ประธานสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด(LCDC) และท่านพุดสะหวาด สูนทะลา รองเลขาธิการ ป.ป.ส.ลาว
ทั้งนี้การประชุมดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสและรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดของกัมพูชา ลาว และไทย พิจารณาและรับรองแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง3ประเทศ (กัมพูชา ลาว และไทย) เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงานและแนวทางในการปฏิบัติการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่าง นอกจากนี้ยังได้พิจารณาและรับรองแนวทางการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านคู่ขนานตามแนวพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา-ลาว เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงาน และแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่อต่อต้านการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา-ลาว ทั้งนี้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง3ประเทศ เป็นส่วนหนึ่งที่รองรับแนวคิดในการปิดล้อมสามเหลี่ยมทองคำของพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้นยาเสพติดจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ไม่ให้ลำเลียงออกไปสู่ประเทศต่าง ๆ และสกัดกั้นเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ไม่ให้ลักลอบลำเลียงผ่านพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่างไปสู่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ
สำหรับ ผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ ที่ประชุมเห็นชอบกับแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง3ประเทศ ระยะเวลา2ปี (2560-2561) ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรไทย อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย6ประเทศ ระยะเวลา3ปี(2559-2561)ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและราชอาณาจักรไทย และทั้งสามประเทศเห็นพ้องกันที่จะผนึกกำลังการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง3ประเทศดังกล่าว โดยกำหนด8เมืองที่เชื่อมต่อกันเป็นเป้าหมายที่สำคัญ คือ จังหวัดพระวิหารและจังหวัดสตึงเตร็งของกัมพูชา แขวงจำปาสัก แขวงสาละวัน และแขวงสะหวันนะเขต ของ สปป.ลาว จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษของประเทศไทย เพื่อสกัดกั้นเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดรวมทั้งยาเสพติดทั้งทางบกและทางน้ำ
มาตรการสำคัญที่จะดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง3ประเทศ มี4มาตรการสำคัญ คือ การปราบปราม ความร่วมมือพัฒนาหมู่บ้านคู่ขนาน การประสานงานโดยใช้กลไกสำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดน (BLO) และการบริหารจัดการโครงการ โดยจะเน้นหนักที่2มาตรการ คือ 1.การปราบปรามโดยใช้กลไกที่มีอยู่ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น การตั้งด่าน/จุดตรวจ ในพื้นที่ที่ร่วมกันกำหนด คือ ในกัมพูชา5แห่ง ลาว5แห่ง และไทย17แห่ง รวมทั้งสิ้น 27 แห่ง และ2.ความร่วมมือพัฒนาหมู่บ้านคู่ขนานเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน (ไทย-กัมพูชา2คู่ กัมพูชา-ลาว3คู่ และไทย-ลาว10คู่ รวมทั้งสิ้น 15 คู่) พร้อมทั้งเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับยาเสพติด เช่น การให้ความรู้กับชุมชนและหมู่บ้าน เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติด การรณรงค์ป้องกันยาเสพติด การเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในชุมชนหมู่บ้านและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดในชุมชน เป็นต้น
ทั้งนี้ ทั้งสามประเทศเห็นชอบและรับรองแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง และจะหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมที่จะดำเนินการภายใต้แผนฯต่อไป นอกจากนี้ในการดำเนินงานภายใต้แผนฯแต่ละประเทศจะใช้งบประมาณของแต่ละประเทศดำเนินการ อย่างไรก็ดีทั้ง3ประเทศ เห็นพ้องที่จะร่วมกันพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เป้าหมายและพัฒนาศักยภาพของหน่วยงาน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องแสวงหาความร่วมมือและสนับสนุนจากประเทศที่มีศักยภาพ โดยจะจัดทำแผนความต้องการการสนับสนุนเพื่อเสนอต่อประเทศผู้ให้การสนับสนุนต่อไป
