เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.วิชัย มีขวัญ รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู รับแจ้งเหตุมีผู้ผูกคอตัวเองเสียชีวิต ในบ้านเลขที่ 417-419 ซอยเทิดไทย 26 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี จึงพร้อม พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.บรรยง แดงมั่นคง ผกก.สน.ตลาดพลู ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง3ชั้นครึ่ง ปลูกติดกัน2คูหา บริเวณโถงชั้นล่าง พบศพ นายชาญชัย เคียงประคอง อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของธุรกิจนำเข้าสินค้าประเภทของฝากจากประเทศญี่ปุ่น สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ใช้เทปกาวปิดปากตัวเอง และใช้เชือกไนลอนสีขาวผูกคอติดอยู่กับลูกกรงแก้วบนราวกั้นบริเวณชั้นลอย เสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 10 ชั่วโมง โดยมีโต๊ะไม้ล้มคว่ำอยู่ข้างศพ 1 ตัว ห่างไป 5 เมตร พบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ประกอบขาตั้งบันทึกภาพวิดีโอขณะผู้เสียชีวิตก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นางกาญจนา ศุภมงคล อายุ 59 ปี อาชีพแม่บ้านผู้พบศพคนแรก ให้การว่า เมื่อช่วงสายเดินทางมาทำความสะอาดบ้านตามปกติ แต่แปลกใจที่ผู้เสียชีวิตไม่เปิดประตูบ้านเอาไว้เหมือนเช่นทุกวัน ตนจึงมองลอดช่องประตูเหล็กเข้าไปพบว่า ก่อเหตุแขวนคอตัวเองเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ สำหรับบ้านหลังนี้มีผู้เสียชีวิตอยู่เพียงลำพัง เพราะไม่มีครอบครัว ที่ผ่านมาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลตากสิน มานาน 2 ปี ที่สำคัญเคยบอกกับตนและคนงานใกล้ชิดด้วยว่า อยากฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะทำจริงๆ
“เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานายชาญชัย เคยเล่าให้ลูกน้องคนสนิทฟังว่า รู้สึกเครียดที่ธุรกิจนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นเริ่มซบเซา ทำให้เริ่มเป็นหนี้ธนาคาร อยากฆ่าตัวตายด้วยการนำเทปกาวมาปิดปากก่อนใช้เชือกผูกคอตัวเอง เพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องไปรบกวนคนอื่นๆ กระทั่งเช้าวันนี้ดิฉันเดินทางมาทำความสะอาดพบว่า นายชาญชัย ลงมือฆ่าตัวตายอย่างที่เคยพูดเอาไว้กับคนใกล้ชิดหลายคน” นางกาญจนา กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์จำนวน 3 ฉบับ เนื้อความ ระบุว่า ขอมอบบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และเงินที่เหลือให้ญาติพี่น้องนำไปใช้ จากการติดตามน้องชายผู้เสียชีวิตให้เดินทางมาดูศพ เบื้องต้นไม่ติดใจสาเหตุ อย่างไรก็ดีได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.ปมาตรวจหาร่องรอยเพิ่มเติมและมอบศพให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรอย่างละเอียด
