‘ตำรวจ-กู้ภัย’ โต้ปมดราม่าช่วย ‘เภสัชกร’ วัดธรรมกาย-หนุ่มอาสาตัดพ้อ ‘เจ็บหัวใจ..ไม่เคยฝักใฝ่ฝ่ายใด’

เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 2 มีนาคม ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (บก.ตชด.) ภาค 1 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมอาสากู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและร่วมกตัญญูที่เข้าไปช่วยเหลือและเก็บศพ น.ส.พัฒนา เชียงแรง ผู้ช่วยเภสัชกร เสียชีวิตภายในวัดพระธรรมกาย ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงการเข้าช่วยเหลือ น.ส.พัฒนา

โดยนายสหพล ศรีสมบัติ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวถึงช่วงเวลาในการช่วยเหลือผู้ป่วยในวัดพระธรรมกายว่า ได้รับแจ้งเหตุเวลา 11.52 น. จากศูนย์วิทยุกู้ชีพโรงพยาบาลจังหวัดปทุมธานี แจ้งขอรถให้ไปรับผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบ เวลา 12.10 น. อาสาป่อเต็กตึ๊ง พยาบาลและอาสาร่วมกตัญญูออกเดินทางไปยังประตู 7 พบเจ้าหน้าที่พยาบาลด้านในวิ่งมาหาและเพื่อนคนไข้ ขอให้ไปรับตัวคนไข้ด้านหลัง จึงเคลื่อนรถออกจากประตู 7 เวลา 12.12 น. วิ่งรถย้อนศรตลอดเส้นทางมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านหลายจุด แต่รถไม่ได้จอดแม้แต่ด่านเดียว จนถึงอาคาร ทหารปล่อยผ่านเลยเพราะจะเข้าไปรับคนไข้วิกฤต เวลา 12.20 น. หยุดหน้าประตูบ้านพัก พยาบาลแจ้งให้เปิดประตู เวลา 12.22 น. ถึงหน้าตัวอาคาร พบว่าห้องที่รับผู้ป่วยอยู่ห้อง 1404 ชั้น 4 พยาบาลและทีมแพทย์เตรียมอุปกรณ์ขึ้นปฏิบัติการ เมื่อถึงด้านบนเพื่อนผู้ป่วยแจ้งว่าประตูล็อกไม่สามารถเปิดได้ ตนจึงปีนขึ้นไปดูตรงช่องลม เห็นผู้ป่วยนั่งขัดสมาธิก้มหน้าทิ่มลง จึงพังประตูเข้าไป ช่วยเหลือปั๊มหัวใจ 5 นาที พยาบาลลงความเห็นว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจรแล้วจึงเดินทางกลับ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ภาพรวมคือ ใช้เวลา 17 นาที หลังได้รับข้อความจากศูนย์สั่งการถึงตัวผู้เสียชีวิต พร้อมปั๊มหัวใจ 5 นาที ถือว่าเร็ว ข่าวคือข่าว ข้อเท็จจริงคือข้อเท็จจริง จุดเกิดเหตุไม่ได้ใกล้หรือไกลจนเป็นนัยสำคัญ ข้อกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่กักรถไม่เป็นความจริง ยืนยันได้จากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาทำงานไม่ได้มีผลประโยชน์ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทั้งฝั่งเจ้าหน้าที่หรือผู้ต้องหา แต่ถูกพวกเสพสื่อบิดเบือน ชี้หน้าดูถูกว่าทำงานไม่เป็นมืออาชีพ ขอให้เห็นใจอาสาสมัครที่ตั้งใจมาทำงานด้วย ทีมแพทย์ร่วมชันสูตรพลิกศพ ออกหนังสือรับรองการตายแล้ว ระบุว่าปอดติดเชื้ออักเสบ เพื่อให้ญาติออกใบมรณบัตรตามขั้นตอน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า ในห้องพักของผู้เสียชีวิตพบยาจำนวนหนึ่ง เป็นยาขยายหลอดลม ยาฆ่าเชื้อ จึงได้ส่งให้แพทย์เพื่อออกเป็นรายงาน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทั้งทหารและตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร อาสาสมัครทำหน้าที่สมบูรณ์แบบแล้ว อาสาสมัครกู้ชีพชุดแรกถอยออกมา ช่วงระยะเวลา 12.32-12.34 น. หลังจากนี้จะดูว่าใครมุสาวาทาหรือไม่ ชุดที่ 2 นายไตรรัตน์ สุโภชน์ อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับแจ้งให้ตรวจสอบประเมินสถานการณ์ว่าเป็นจุดเดียวกัน จึงนำรถเข้าไปคันเดียวเวลา 13.30 น. มีพนักงานสอบสวนและทีมแพทย์เข้าไปชันสูตรผู้เสียชีวิต เมื่อถึงก็ชันสูตรเก็บหลักฐานตามปกติ ถ่ายรูปบันทึกภาพ นำศพออกมาเวลาประมาณ 14.40 น. จากนั้นนำศพมาถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือที่ สภ.คลองหลวง และส่งศพไปสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต

Advertisement

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นในชุดที่ 3 อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งให้ไปรับผู้ป่วยในวัดพระธรรมกาย ที่ประตู 7 เมื่อไปถึงใช้เวลา 15 นาที มีดีเอสไอนำเข้าไปในวัด เมื่อเข้าไปสักระยะจึงพบรถพยาบาลของวัดจอดอยู่ ตนจึงลงไปสอบถามเพราะคิดว่านำคนป่วยมาส่ง ปรากฏว่าผู้ที่ลงมาจากรถเป็นพระ 2 รูป พระนั่งรถของกู้ภัยนำทางไปประตู 15 แต่ออกไม่ได้ ตนจึงถามว่าหลวงพี่จะไปไหนแน่ พระบอกว่าไปจุดที่มีคนตาย ตนจึงแจ้งกลับว่าผู้ป่วยตายแล้วหลวงพี่จะไปทำไม พระยืนยันให้ไป จึงต้องวนกลับมาออกประตู 7 แต่ดีเอสไอพาไปออกประตู 8 ใกล้ที่สุด ระหว่างทางเจอด่านไม่มีการตรวจเรียก จนส่งพระลงไปที่จุดเกิดเหตุตามความประสงค์ โดยพระสงฆ์อ้างว่ารถพยาบาลของวัดออกมาไม่ได้เพราะติดด่านของเจ้าหน้าที่

“ทั้ง 3 เหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เผชิญเหตุไม่มีใครมัวสร้างภาพ เก็บภาพ 3 เหตุการณ์ที่เล่าให้ฟังคงตอบโจทย์ได้กับสิ่งที่สับสน โดยอาสาสมัครพยายามช่วยเหลือชีวิตผู้หญิงคนนั้น ส่วนคนที่พูดในทางเสียหายคงต้องดูตัวเองแล้วว่ามนุษยธรรมเป็นอย่างไร ในการทำงานไม่เห็นว่าการตัดสัญญาณโทรศัพท์จะสร้างปัญหาอะไร เพราะคนที่แจ้งเหตุใช้โทรศัพท์ได้ ตอนนี้อาจพูดเอามันได้ แต่ดีเอสไอเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินคดีต่อไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสหพล อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งตัดพ้อถึงการปฏิบัติหน้าที่ว่า “สหแพทย์ต้องการช่วยเหลือผู้ป่วย ไม่แบ่งชนชั้น มีความรู้สึกเจ็บหัวใจเหมือนกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้สึกท้อ แม้ทุกวันนี้จะอาบน้ำในปั๊มน้ำมันทุกวัน นอนก็ไม่สะดวกสบายเหมือนพวกท่าน ที่ผ่านมาแม้คนนอนจรจัดก็ช่วย ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด”

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image