เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ปรับกลไกและกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย อันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูประบบการคมนาคมขนส่งและความสงบเรียบร้อยของสังคม มีการเผยแพร่แผนผังการดำเนินการตาม มาตรา 44 กรณีผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถได้รับใบสั่ง แบ่งเป็น 1.กรณีมาชำระค่าปรับตามใบสั่ง สามารถขอชำระภาษีประจำปีได้ และ2.กรณีไม่มาชำระค่าปรับตามกำหนดใบสั่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ระดับสว.ขึ้นไปทำหนังสือส่งไปรษณีย์ ลงทะเบียนตอบรับแจ้งให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถที่ได้รับใบสั่งมาชำระภายใน15วัน นับแต่ได้รับแจ้ง โดยกรณีมาชำระค่าปรับภายใน15วัน สามารถขอชำระภาษีประจำปีได้
“ส่วนกรณีไม่มาชำระค่าปรับภายใน15วัน หลังได้รับหนังสือทางไปรษณีย์ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งจำนวนค่าปรับที่ค้างชำระพร้อมหลักฐานไปยังนายทะเบียน เมื่อมีผู้มาขอชำระภาษีประจำปี ให้นายทะเบียนรับชำระภาษีประจำปี โดยออกหลักฐานชั่วคราวแทน(ป้ายวงกลมชั่วคราว)มีอายุ30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนออกให้ แล้วให้นายทะเบียนตรวจสอบข้อมูลแจ้งให้ผู้ที่มาติดต่อไปชำระค่าปรับภายใน30วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ทั้งนี้กรณีมาชำระภายใน 30 วัน (นายทะเบียนมีอำนาจรับชำระค่าปรับ)หรือนำหลักฐานการชำระค่าปรับมาแสดงต่อนายทะเบียน จากนั้นนายทะเบียนออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี(ตัวจริง)ให้
“ส่วนกรณีไม่มาชำระภายใน30วัน พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งนายทะเบียนให้งดการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี(ตัวจริง)และแจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่วนกรณีผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ เห็นว่า มิได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถให้ทำหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหานั้น ภายใน15วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือพนักงานจราจรได้รับหนังสือโต้แย้งแล้ว ยังคงยืนยันและเห็นสมควรดำเนินคดี ให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลต่อไป แล้วแจ้งผลให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถทราบต่อไป”
