จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าตำรวจควบคุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ต่อมาเมื่อกลางดึกเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวหญิงสาวคนสนิทมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นั้น
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน รายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง แจ้งว่า ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มสกรีนจากภาพจากกล้องวงจรปิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กระทั่งพบนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เป็นบุคคลต้องสงสัย เดินทางมาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในวันเช้าวันเกิดเหตุ โดยคาดหน้ากากอนามัยและถือถุงพลาสติกต้องสงสัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเริ่มแกะรอยจากกล้องวงจรปิด โดยพบว่านายวัฒนา เดินทางมาที่โรงพยาบาลโดยรถโดยสารประจำทาง และไปเอารถยนต์ที่จอดไว้ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ย่านบางกรวย โดยเป็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ และจากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของลูกชายนายวัฒนา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดตามสอบถามลูก กระทั่งทราบว่านายวัฒนา นำรถยนต์ลูกชายมาขับ
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสะกดรอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า1สัปดาห์ พบว่านายวัฒนา มักจะจอดรถไว้ที่ กฟผ.ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ก่อนโดยสารรถประจำทางไปยังสถานที่เป้าหมาย ทั้งนี้พบว่านายวัฒนา เดินทางไปโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย แต่ไม่ทราบว่าเดินทางไปทำอะไร จึงชิงเข้าควบคุมตัวไว้ก่อน เนื่องจากหวั่นว่าจะก่อเหตุร้าย และจากการสอบปากคำนายวัฒนาให้การรับสารภาพในที่สุด ว่าเคยก่อเหตุระเบิดรวม6ครั้ง โดยเริ่มก่อเหตุตั้งแต่มีการทำรัฐประหารรัฐบาลยุคนายทักษิณ ชินวัตร ในช่วงรัฐบาลรสช.ในปี 2550 รวม 3 เหตุการณ์ ประกอบด้วย เหตุระเบิดที่หน้าแมคโดนัลล์ ห้างเมเจอร์ สาขารัชโยธิน ,เหตุระเบิดที่ซอยราชวิถี 24 และเหตุระเบิดที่หน้ากองทัพบก จากนั้นก็ได้หยุดก่อเหตุไปเนื่องจากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก่อนจะกลับมาก่อเหตุอีกครั้งในรอบปีนี้ รวม 3 จุด คือ เหตุระเบิดที่หน้ากองสลาก(เก่า) เหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ และเหตุระเบิดที่รพ.พระมงกุฎเกล้า
