บิ๊กตร.ชี้’สันธนะ’กั๊กข้อมูล’เจ๊ ชุมพร’เก่าแล้ว ระบุไม่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ เข้าสำนวนไม่ได้

พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา(สบ10) แถลงหลังรับฟังข้อมูลจาก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผกก.สันติบาล

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดี สังหารหมู่ ครอบครัวนายวรยุทธ สังหลัง อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้าน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เสียชีวิต รวม 8 ศพ กล่าวภายหลังรับฟังข้อมูลจาก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 กรณีพาดพิง มี “เจ๊ ชุมพร” เข้าไปเกี่ยวโยงกับคดีนี้ ว่า ข้อมูลที่มีการพูดคุยเป็นข้อมูลเดิมๆ ที่ชุดสืบสวนมีตั้งแต่ต้น และเชื่อว่าสื่อมวลชนเองก็ทราบบางส่วนแล้ว ตนได้บอกกับ พ.ต.ท.สันธนะ เช่นกันว่าข้อมูลนี้ชุดสืบสวนมีตั้งแต่ต้น ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเกี่ยวพันกับโรงโม่หินแต่อย่างใด และยังไม่มีพยานหลักฐานว่ามีบุคคลอื่นจ้างวานฆ่าแต่อย่างใด

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า หลักฐานซึ่งเป็นตัวบุคคลที่ พ.ต.ท.สันธนะอ้างถึง ไม่สามารถพามาให้ข้อมูลได้ ซึ่งตำรวจไม่จำเป็นต้องเรียก พ.ต.ท.สันธนะมาให้ข้อมูลอีก แต่หาก พ.ต.ท.สันธนะ มีข้อมูลเพิ่มเติมทางตำรวจก็พร้อมเปิดรับฟัง ส่วนพฤติกรรมของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่ออกมาให้ข้อมูลนั้นยืนยันว่าไม่กระทบสำนวนคดี ส่วนสังคมจะเคลือบแคลงสงสัยหรือไม่นั้นเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เรียกร้องให้ย้ายสำนวนมาส่วนกลาง เป็นอำนาจของศาล ตำรวจไม่สามารถก้าวล่วงได้

จากการพูดคุยได้สอบถามไปแล้วว่าเจ๊ ชุมพรเป็นใคร พร้อมที่จะให้ชื่อจริง นามสกุลจริงหรือไม่ ก็ได้คำตอบจาก พ.ต.ท.สันธนะ ว่า เจ๊ ชุมพรเป็นเพียงชื่อสมมุติ ยังไม่สะดวกที่จะให้ชื่อจริง นามสกุลจริง เนื่องจากจะทำให้พยานเกรงกลัว ซึ่งข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากได้ พ.ต.ท.สันธนะ ก็ไม่สามารถให้ได้ และข้อมูลที่คุยกันวันนี้ไม่มีความเป็นนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจไม่สามารถนำเข้าสำนวนได้” รอง ผบ.ตร. กล่าว และว่า สำนวนคดีมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 โดยเหลือเพียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนคดีโดยเร็วที่สุด และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับให้นำสืบพยานล่วงหน้า เพราะเป็นพยานสำคัญที่รอดชีวิตต้องได้รับการดูแล

ด้าน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 กล่าวภายหลังพบชุดสืบสวนสอบสวนคดี ว่า บรรยากาศการพูดคุยวันนี้เป็นไปได้ด้วยดี ตำรวจก็รับฟัง ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างเจ๊ ชุมพร กับผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย อาจจะมีคนกลางมาเกี่ยวข้องในลักษณะการจ้างวาน ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรง แต่จะเหตุผลอะไรนั้น ตนได้ให้ข้อมูลไปแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับฟังและจะขยายผลต่อ ทั้งนี้อยากให้ตำรวจโอนสำนวนการสอบสวน และผู่ต้องหามาไว้ที่กรุงเทพฯด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image