ทนายสงกานต์แจ้งจับ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กค้ามนุษย์ ว่าจ้าง2สาวถ่ายคลิปเต้นยั่ว

จากกรณี น.ส.เมญ่า (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี และน.ส.กุ๊กกิ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน และพ.ต.ต.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน) สน.บางเขน หลังถูกออกหมายจับฐานร่วมกันกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัน โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย และกระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเต้นยั่วและโป๊เปลือยทางเพจเฟซบุ๊ก

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 กันยายน ที่ สน.บางเขน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และคณะทำงานฝ่ายกฏหมาย นำพยานหลักฐานเป็นแผ่นข้อมูลคลิป 29 คลิปเดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สราวุธ บุตรดี สว.สน.บางเขน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญา กับนายทุนหรือผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าของเพจทั้ง 2 เพจ ในความผิดฐานค้ามนุษย์ เนื่องจากเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิต หรือเผยแพร่วัตถุ หรือสื่อลามก ในการว่าจ้าง เมญ่าและกุ๊กกิ๊ก ให้เต้นเปลื้องผ้าและเปลือยมีลักษณะลามก อันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

นายสงกานต์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานมามอบเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ว่าจ้าง พร้อมนำชื่อเพจ 2 เพจ มีนักเรียนนักศึกษาจำนวนมากมีลักษณะนุ่งน้อยห่มน้อย และได้รวบรวมคลิปของเมญ่าและกุ๊กกิ๊ก 29 คลิป ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะเอาผิดกับผู้ว่าจ้าง ในความผิดตาม มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2560 และยังนำภาพลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งประชาชนเข้าถึงได้อันเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับแก้ไข) พุทธศักราช 2560 มาตรา 14 ( 4 ),(5) และตาม ประมวล กฎหมายอาญามาตรา83 และ มาตรา 91 และมาตรา 388 ให้ลงโทษตาม มาตรา 52 โทษจำคุก4-12 ปี และ ปรับตั้งแต่ 400 ,000-1,200,000 บาท เหตุเกิดระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม จนถึงวันที่ 26 สิงหาคม

ด้านพ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า ทางนายสงกานต์ได้นำพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมายื่นเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เพจที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 เพจ และคลิปวีดิโอ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะส่งข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลตรวจสอบว่าเพจดังกล่าวมีใครเป็นเจ้าของ หากมีข้อมูลว่าใครเป็นผู้ดูแลจะเชิญมาสอบสวนขยายผลว่าเป็นผู้ว่าจ้างหรือไม่ นอกจากนี้จะเรียกเมญ่าและกุ๊กกิ๊กมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาใดบ้างนั้น ต้องรอผลการตรวจสอบจากกระทรวงดิจิทัล และจะสอบสวนรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่าไปถึงบุคคลใดบ้าง ก่อนจะพิจารณาว่าเข้าข่ายในฐานความผิดใดต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image