จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกันและใช้ระเบิดขวดปาใส่รถจักรยานยนต์จนเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคัน อีกทั้งยังทำร้ายนายกุลธวัช วิสิทธิ์ อายุ 26 ปี บุตรชายตำรวจยศ พ.ต.ท. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี บริเวณแยกภาสยา แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. หลังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ต่อมาติดตามนายชนายุทธ หรือซีน ขันทอง อายุ 18 ปี และนายธนภัค หรือเพิร์ธ สุพรรณเภสัช อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นนั้น
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.สำอาง ขาวสอาด สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง ได้นำตัวนายชนายุทธและนายธนภัคมาทำแผนประกอบคำให้การ
จุดแรกบริเวณหน้าร้านสามล้อ จุดที่นายชนายุทธขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์สีส้ม-ดำ ทะเบียน 6 กฮ 8208 กรุงเทพมหานคร มีนายธนภัคซ้อนท้ายด้วยมาจอด เพื่อมาหานายสุขสันต์ หรือยีนส์ นกศิริ อายุ 22 ปี (ที่ยังหลบหนีอยู่) และจะเข้าเคลียร์ปัญหาภายในร้าน แต่การ์ดของร้านไม่ให้เข้า จึงจอดรออยู่หน้าร้าน จนกระทั่งเห็นผู้เสียหายขับรถออกมาจากร้าน นายชนายุทธจึงได้ขับขี่รถออกตามไป ส่วนนายธนภัคได้ขึ้นจักรยานยนต์เพื่อนอีกคันตามไป จุดที่ 2 บริเวณปากซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 39 ซึ่งเป็นจุดที่นายชนายุทธ ใช้เท้าถีบรถผู้เสียหายจนรถตัวเองล้ม ก่อนที่รถผู้เสียหายจะล้มลง หลังจากนั้นนายธนภัคและกลุ่มเพื่อนตามมาทันก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ก่อนรถจะเกิดไฟลุกขึ้น ซึ่งจุดนี้นายชนายุทธและนายธนภัคอ้างว่าตนเองไม่ได้ร่วมทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เนื่องจากหลังจากรถล้มตนได้รับบาดเจ็บ และไม่ทราบว่าไฟไหม้รถจักรยานยนต์ผู้เสียหายได้อย่างไร หลังเสร็จสิ้นการทำแผน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลอาญาโดยทันที
พ.ต.อ.มานะกล่าวว่า นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาทำแผนประกอบคำให้การ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งตรงจุดนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะรับสารภาพหรือไม่ก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุมมากที่สุดเพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุ ตอนนี้ทราบว่ามีอีกประมาณ 5 คนที่ยังไม่ได้ออกหมายจับ และอยู่ระหว่างติดตามตัว ส่วนที่ออกหมายจับไปแล้วและอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับอีก 1 คน รวมในคดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 8 คน จับแล้ว 2 คน หลบหนีหมายจับ 1 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 5 คน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายชนายุทธและนายธนภัคไปฝากขังต่อศาลอาญาในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
