เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2560 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.อ.กิตติธเนศ ธนันทวีสิน ผกก.สส.บก.น.9 สนธิกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 เข้าจับกุมนายปฐมพร หรือเบียร์ เอี่ยมกลิ่น อายุ 22 ปี ชาว กทม. ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ สีขาว เปลี่ยนชุดสีเป็นสีแดง ทะเบียน 3กด 6901 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้ขณะหลบหนีไปกบดานใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
หลังจากเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคู่อริจนถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บบนถนนเอกชัย ฝั่งตรงข้ามซอยเอกชัย 68 แขวงและเขตบางบอน ที่เกิดเหตุพบศพนายอนุสรณ์ นาลอย อายุ 19 ปี หนุ่มโรงกลึงย่านบางกรวย ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เข้าที่อกด้านซ้ายกระสุนตัดขั้วหัวใจ 1 นัด เสียชีวิตใกล้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีแดง ทะเบียน 6กล 3375 กรุงเทพมหานคร ของตัวเอง ซึ่งจากการตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดซุกอยู่ใต้เบาะ 1 ชุด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิตขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เกาะกลุ่มมาด้วยกันถูกกระสุนปืนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 2 คน มีนายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ถูกยิงที่เท้า และ น.ส.เลย์ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ถูกยิงที่หน้าท้อง ทั้งคู่อาการปลอดภัย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.น.9 กำชับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 เร่งประสานกันลงพื้นที่สอบสวนพยาน รวมทั้งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเบาะแสเกี่ยวกับมือปืนรายนี้ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายปฐมพร ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่บ้านย่านถนนพระราม 2 ซอย 84 แต่หลังเกิดเหตุนายปฐมพรหนีออกจากบ้านพักไปกบดานตามบ้านญาติและคนรู้จักในหลายพื้นที่ รวมถึงดัดแปลงสภาพ รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจากสีขาวให้เป็นสีแดง เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบสวนนายปฐมพร รับว่าปัจจุบันไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ช่วยญาติพี่น้องทำธุรกิจขายเหล็ก ก่อนเกิดเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเที่ยวเล่นกับกลุ่มเพื่อนหลายคัน กระทั่งพบกับกลุ่มผู้เสียชีวิตที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาหลายคันบนถนนเอกชัยฝั่งขาเข้า เริ่มแรกกลุ่มผู้เสียชีวิตตะโกนมาแซวสาวรุ่นน้องในกลุ่มของตน จากนั้นจึงเกิดการเขม่นกันขึ้น พอขับขี่รถตีคู่กันมาได้สักระยะ คนในกลุ่มผู้เสียชีวิตตะโกนให้ของลับตนและพูดท้าทายคล้ายอยากจะมีเรื่อง ทีแรกตนแกล้งเร่งเครื่องแซงหนีกลุ่มผู้เสียชีวิตไป แต่พอเห็นกลุ่มผู้เสียชีวิตกลับรถย้อนไปทางถนนเอกชัยฝั่งขาออก จึงรีบกลับรถตามไปใช้อาวุธปืนบีบีกันที่ดัดแปลงใส่ลูกกระสุนปืนจริงขนาด 9 มม. ที่เพิ่งซื้อมาในราคากระบอกละ 10,000 บาท ยิงใส่กลุ่มผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 4 นัด จากนั้นจึงเร่งเครื่องกลับไปตั้งหลักที่บ้านพักถนนพระราม 2 ซอย 84 เปลี่ยนชุดสีของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจากสีขาวให้เป็นสีแดงแล้วจอดรถทิ้งไว้ที่บ้าน ก่อนเปลี่ยนเอารถเก๋งของญาติขับหลบหนีไปกบดานตามบ้านคนรู้จักในหลายจังหวัด
“เริ่มแรกขับรถเก๋งมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้เพื่อไปพักที่บ้านญาติภรรยาในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างทางเจอด่านตำรวจตั้งจุดสกัดช่วงก่อนถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงตัดสินใจโยนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไปในป่าแล้วขับรถไปต่อจนถึงจุดหมาย แต่กบดานอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนสถานที่ย้ายไปตั้งหลักกับญาติที่ จ.ชลบุรีอีก เพราะช่วงเวลาดังกล่าวในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี กำลังประสบปัญหาอุทกภัย กระทั่งสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้วจึงย้อนกลับไปที่ จ.สุราษฎร์ธานีอีกครั้ง จนถูกเจ้าหน้าที่ตามสะกดรอยและรวบตัวเอาไว้ได้ในที่สุด” นายปฐมพรกล่าว
เบื้องต้นชุดจับกุมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
