7 วันอันตราย 3 วันแรก ยอดตายเกือบสองร้อย “เชียงใหม่” เยอะสุด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 เมษายน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ (ศปถ.) พ.ศ. 2561 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 820 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 86 ราย ผู้บาดเจ็บ 852 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 47.56 ขับรถเร็ว ร้อยละ 27.44 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.66 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 64.51 บนถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 36.95 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.83 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 29.02 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 18.12 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,029 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,547 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 837,164 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 172,294 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 50,197 ราย ไม่มีใบขับขี่ 45,485 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (35 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (36 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน (11 – 13 เมษายน 61) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,846 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 188 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,934 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 11 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (65 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และเพชรบูรณ์ (8 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (70 คน)

พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวต่อไปว่า หลายพื้นที่ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์และมีการเฉลิมฉลองด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ถนนสายรองที่เชื่อมต่อเส้นทางสายหลักและระหว่างอำเภอมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง ประกอบกับจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่า ยังคงมีสาเหตุมาจากการดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว ศปถ. จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครประจำจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้มในการปฏิบัติงานของด่านชุมชน จุดตรวจ และจุดสกัด พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนเส้นทางสายรอง เน้นการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะดื่มแล้วขับและขับรถเร็วในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ รวมถึงการขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำที่ไม่สวมหมวกนิรภัย รถจักรยานยนต์พ่วงที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ และรถกระบะบรรทุกคนเล่นน้ำที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ ให้ดูแลความปลอดภัยพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์และเส้นทางโดยรอบพื้นที่จัดโซนนิ่ง และถึงดูแลการเปิด – ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง โดยเข้มงวดกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลักษณะเร่ขายในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและการเล่นน้ำไม่ปลอดภัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image