‘อัมพร’ ชงรื้อระบบสอบครูผู้ช่วย ดึง ‘ก.ค.ศ.’ หน่วยงานกลางจัดสอบเหมือน ก.พ. เร่งสรุปผลสอบครูผ่านน้อย
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่สวนนงนุช จ.ชลบุรี นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ โดยมีผู้อำนวยการเขตพื้นที่ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมกว่า 500 คน ว่าการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ผู้บริหารเขตพื้นที่ได้มาดูระบบบริหารจัดการ การจัดทำแหล่งเรียนรู้ของสวนนงนุชว่ามีวิธีคิดและวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตัวเอง
นายอัมพรกล่าวว่า รวมถึงอยากให้หาวิธีเปิดโอกาสให้นักเรียน โดยเฉพาะกลุ่มที่ด้อยโอกาสได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพื่อเปิดวิสัยทัศน์ นอกจากนี้ จะเป็นการติดตามการดำเนินการ โดยเฉพาะระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 สพฐ.ได้ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งการเยี่ยมบ้านนักเรียน ให้ครูและโรงเรียนเข้ามาดูแลช่วยเหลือนักเรียน ทั้งด้านอารมณ์ สังคม สุขภาพร่างกาย เพื่อให้เด็กมีต้นทุนที่พร้อมในการเรียนรู้ โดยเฉพาะหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นมากมาย
นายอัมพรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อนักเรียนมีความพร้อมแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือการเตรียมครูผู้สอนให้พร้อม ซึ่งทางเขตพื้นที่จะต้องวางแผนการบริหารจัดการอัตรากำลัง ทั้งเรื่องของการสรรหา บรรจุแต่งตั้งครูและผู้บริหารสถานศึกษา รวมถึงการบริหารจัดการบุคลากรภายในโรงเรียนที่บางแห่งจำนวนเด็กลดลง แต่อัตราครูยังมีอยู่เท่าเดิม ก็ต้องไปดูว่าจะสามารถเกลี่ยอัตราในส่วนที่เกินไปในตำแหน่งใดได้บ้าง ตรงนี้เป็นเรื่องการบริหารจัดการคน รวมถึงเรื่องบริหารจัดการงบประมาณ ซึ่งจะต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้ทันภายใน 3 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2566
นายอัมพรกล่าวด้วยว่า และประการสุดท้ายเป็นเรื่องวิชาการ ที่ผ่านมามีการพูดคุยเรื่องการเรียนรู้ในรูปแบบแอ๊กทีฟเลิร์นนิ่ง ในช่วง 1-2 ปีหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พูดถึงปัญหา Learning loss หรือภาวะการเรียนรู้ถดถอย พูดถึงการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอซีที เข้ามาจัดการการเรียนรู้ ดังนั้น สุดท้ายแล้วจะต้องมาสรุปว่าวิธีการเติมเต็มความรู้ให้กับเด็กนั้นควรมีกี่วิธี และแต่ละกลุ่มจะมีวิธีการเติมเต็มอย่างไร โดยมีเป้าหมายหลักคือคุณภาพผู้เรียน
“ส่วนเรื่อง การสอบครูผู้ช่วย ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีครูสอบผ่านได้น้อยนั้น อยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้มีผู้สอบไม่ผ่านจำนวนมาก เพื่อดูว่ามหาวิทยาลัยฝ่ายผลิตเองจะต้องปรับระบบการเรียนการสอนอย่างไร รวมถึงจะต้องส่งข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปพิจารณาด้วยว่าควรจะต้องปรับหลักเกณฑ์การสอบแข่งขันในส่วนใดเพื่อให้ผู้เข้าสอบสามารถสอบบรรจุได้มากขึ้น
“วันนี้หลายฝ่ายยังสับสน แม้แต่ ก.ค.ศ.เองก็ออกมาระบุว่า สพฐ.ไม่อยากให้ส่วนกลางออกข้อสอบ ซึ่งความจริงไม่ใช่ และหากเป็นไปได้ในอนาคตผมอยากให้สำนักงาน ก.ค.ศ.เป็นหน่วยงานกลางดำเนินการจัดสอบ ภาค ก และภาค ข ปีละ 2 ครั้ง คล้ายกับการสอบคัดเลือกข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รวมถึงควรจะต้องมีคลังข้อสอบที่มหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมกันออกอย่างมีมาตรฐาน หากหน่วยงานใดจะจัดสอบก็สุ่มเลือกข้อสอบและจัดสอบโดยหน่วยงานกลาง และถ้าเขตพื้นที่ใดมีอัตราว่างก็นำคะแนนไปยื่นสมัครเพื่อสอบสัมภาษณ์ ภาค ค ได้ทันที ตรงนี้จะทำให้การจัดสอบมีความโปร่งใส เป็นธรรม สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งระบบ
“ขณะเดียวกันหากมีบัญชีที่สอบไว้เหมือน ก.พ.ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการโย้กย้าย เพราะครูสามารถเลือกโรงเรียนด้วยความสมัครใจ ไม่เหมือนกับปัจจุบันที่ไม่สามารถควบคุมเรื่องการโยกย้ายได้ ปัญหาทั้งหมดผมไม่อยากให้เป็นการแก้แบบย้อนกลับไปกลับมา อยากให้ถอดบทเรียนและแก้ไขไปข้างหน้า เพราะการให้ส่วนกลางจัดสอบและออกข้อสอบก็เคยดำเนินการมาแล้ว โดย สพฐ.ก็จ้างมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) ออกข้อสอบ ตอนนั้นก็บอกว่าไม่ดี ไม่กระจายอำนาจ แต่พอปรับมา กระจายอำนาจให้เขตพื้นที่ดำเนินการก็กลับอยากให้ส่วนกลางจัดสอบอีก ซึ่งในมุมมองของผมเห็นว่าการกระจายอำนาจเป็นสิ่งที่ดี แต่มหาวิทยาลัยต้องไปดูเรื่องการออกข้อสอบให้สามารถคัดเลือกคนมาเป็นครูได้อย่างเหมาะสม จากนี้ต้องดูว่าต่อไปจะทำอย่างไรให้ดีกว่าเดิม คุ้มค่ากับงบประมาณ รวมถึงสามารถบรรจุแต่งตั้งครูได้ทันก่อนเปิดภาคเรียน” นายอัมพรกล่าว
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้ได้มอบเป็นข้อเสนอกับที่ประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่แล้ว ส่วนแนวทางแก้ปัญหา โรงเรียนที่ยังมีครูไม่ครบเพราะมีผู้สอบผ่านได้น้อยนั้น เบื้องต้นจะใช้อัตราจากการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว16) กรณีที่มีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ สังกัด สพฐ. ซึ่งจะเปิดรับสมัครวันที่ 21-27 กรกฎาคม สอบข้อเขียนภาค ก ความรอบรู้และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู และสอบภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 19 สิงหาคม สอบสัมภาษณ์ วันที่ 20 สิงหาคม และประกาศผลสอบภายในวันที่ 24 สิงหาคม มาชดเชยอัตรากำลังที่ขาดก่อน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า หากยังไม่เพียงพอ จะให้มีการขอใช้บัญชีข้ามเขตในพื้นที่ที่มีการสอบขึ้นบัญชีไว้เกินกว่าอัตราที่เปิดรับ อาทิ พื้นที่ที่จัดสอบโดย มสด. ซึ่งมีผู้สอบผ่านได้มาก หรือหากขอใช้บัญชีแล้วยังวิกฤตอยู่ก็ค่อยมาดูว่าจำเป็นต้องจัดสอบอีกรอบหรือไม่ ทั้งหมดนี้ต้องหาข้อสรุปหลังจากมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ก.ค.ศ.และมหาวิทยาลัยฝ่ายผลิตร่วมกันตัดสินใจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครูรุ่นใหม่แห่ออกหลังได้บรรจุ เหตุระบบเน่าเฟะ วัดมืออาชีพจากรางวัล ซัด สพฐ.เมินแก้
- สกู๊ปหน้า 1 : อลเวงข้อสอบ ทางออกครูผู้ช่วย