สพฐ.แจงเหตุครูถูกชี้มูลโกงค่าอาหารกลางวัน ชี้ยังอุทธรณ์ได้หากบริสุทธิ์ พร้อมเผยแนวทางถอดภาระงานการเงินจากครู
จากกรณีข่าวครูสาวใน จ.กาญจนบุรี ถูกไล่ออกจากราชการ เนื่องจากถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีส่วนร่วมทุจริตเงินอาหารกลางวันเมื่อ 13 ปีก่อน แม้เจ้าตัวระบุว่าเพียงเซ็นเอกสารตามคำสั่งของ ผู้อำนวยการโรงเรียน
ครูสาวโอดถูกไล่ออก รับบาป ผอ.ทุจริตอาหารกลางวัน หลังเป็นจนท.ธุรการ เซ็นรับรองทั้งที่ไม่รู้
ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงศ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว ในเบื้องต้นทางสพฐ.ต้องดำเนินการตามมติของป.ป.ช.ที่ชี้มูลว่าครูคนดังกล่าวมีความผิดตามกระบวนการกฏหมาย ขณะเดียวกันก็จะมีกระบวนการที่ให้ครูได้ยื่นอุทธรณ์โดยการส่งมอบหลักฐานที่แสดงถึงความบริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือใช้เงินดังกล่าว โดยหากนำหลักฐานมาทางสพฐ.ที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดและ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่เป็นหน่วยงานพิจารณาวินัยก็จะสามารถทำการอุทรณ์ตามกระบวนการได้ และหากพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงก็สามารถกลับคำตัดสินและเปลี่ยนจากการให้ออกจากราชการเป็นการลงโทษอื่นๆที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้หากก.ค.ศ.เห็นชอบตามมติของป.ป.ช.ในเรื่องดังกล่าวก็ยังสามารถไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้เช่นกัน
“เบื้องต้นครูรายดังกล่าวจะต้องทำการหาหลักฐานที่ชี้ว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการทุจริต หรือเป็นการถูกบังคับให้มีการเซ็นชื่อร่วมกัน โดยป.ป.ช.ก็จะต้องสอบสวนตามหลักฐานที่มีซึ่งเป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมาย ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณครูและผมเชื่อว่าในโลกนี้หากใครไม่ได้ทำผิดก็จะไม่มีความผิด ทั้งนี้สพฐ.ได้กำลังออกแบบแนวทางที่จะให้ครูไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเงินเหล่านี้ ซึ่งมีการคิดไว้หลายแนวทาง ทั้งการใช้พนักงานธุรการที่สพฐ.กำกับดูแลอยู่เข้ามาทำแทน โดยมีการอบรมมอบความรู้ด้านการเงินเพิ่มเติมและเพิ่มค่าตอบแทนให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่สพฐ.กำลังพิจารณา”ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว