จากกรณีข่าวเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีการทำร้ายร่างกายระหว่างสาวทอมกับแฟนสาว หรือกรณีสามียิงภรรยาด้วยเหตุนอกใจและจับเป็นตัวประกัน หรือกรณีภรรยาขับรถชนสามีด้วยเหตุนอกใจ
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้ข้อคิดว่า จริงๆคนในสังคมป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ จาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว โดยเจตจำจงของกฎหมายช่วยให้ครอบครัวมีทางออก โดยที่สังคมต้องมีส่วนร่วมอันนี้สำคัญมาก ในหลายกรณีที่คนในครอบครัวถูกทำร้ายผลจากการเข้าไปสอบถามมักพบว่าเพื่อนบ้านได้พบเหตุการณ์ทำร้ายร่างการเป็นประจำ แต่สังคมกลับเพิกเฉยจนกลายเป็นระบบปิดของครอบครัว ทั้งที่จริงหากเราเข้าไปแทรกแซงหรือหาวิธีช่วยเหลือตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดเหตุสลดดังข่าว
มติชนออนไลน์ ได้เชิญชวนแสดงความเห็น “หากพบความรุนแรงในครอบครัว..คุณจะช่วยเหลือหรือไม่..เพราะเหตุใด..”
โดยผลการแสดงความคิดเห็นผ่านทางทวิตเตอร์ MatichonOnline พบว่า ร้อยละ 50 ช่วยเหลือ ร้อยละ 9 ไม่ช่วยเหลือ และร้อยละ 41 ไม่แน่ใจ
ส่วนเฟซบุ๊ก MatichonOnline มีความคิดเห็นหลากหลาย อาทิ
“ช่วยตามความเหมาะสม ตามดุลยพินิจของตัวเองครับ เอาความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง เช่นถ้าว่า เห็นถือมีด ถือ ปืน ทะเลาะกันอยู่ ก็โทรแจ้ง ตร.สะ
หรือ ถ้าเห็น ผญ.ตบตี เด็กอะไรอยู่ เราพอห้ามปราบได้ก็ทำ ประมาณนี้
กฎหมายไม่ใช่ว่าจะต้องบังคับให้ช่วยเหลือทุกกรณี”
“กฎหมายบังคับให้ช่วย แต่ไม่คุ้มครองถ้าเกิดอันตรายกับผู้เข้าไปช่วย ภาษาชาวบ้านคืออาจตายฟรี”
“ช่วยครับช่วยแจ้งความให้ตำรวจมาจัดการแต่จะไม่เข้าไปช่วยด้วยตัวเอง…กลัวตาย”
“โทรแจ้ง 191 อย่างน้อยก็มีความพยายามทำอะไรแล้ว การช่วยเหลือตัวเราเองก็ต้องไม่เป็นอันตรายหรือเดือดร้อน มองความเป็นจริงๆๆ”
จากกรณีข่าวเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีการทำร้ายร่างกายระหว่างสาวทอมกับแฟนสาว…
โพสต์โดย Matichon Online – มติชนออนไลน์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2018