เปิดใจ ‘อุ๊บ วิริยะ’ จาก ‘กกกอก เดอะซีรีส์’ จนถึงวันไม่เผาผี ‘ลุงพล’ เผย เกิดมาไม่เคยเจอ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุ๊บ-วิริยะ พงษ์อาจหาญ อายุ 61 ปี ได้เปิดเผยถึงประเด็นร้อนแรงที่บ้านกกกอกว่า มีสื่อช่องหนึ่งมาสอบถามตนว่า มีคดีไหนที่สามารถทำเป็นหนังเป็นละครได้ ในปีที่ผ่านมาก็มีเยอะเลย แต่ก็มีหลายคดีที่ทำได้ เช่นคดีจ่าคลั่ง โคราช ที่ตนได้ไปช่วยเหลือคุณแม่ของเขา คดีพี่เตี้ย มช. แจ๋วแหววขายพวงมาลัยใต้ทางด่วน สุดท้ายคือกกกอก ซึ่งเรื่องนี้น่าสนใจนะ มันมีหลายอารมณ์ เขาเลยเลือกกกกอก ตนจึงต้องบินไปที่มุกดาหาร ครั้งแรกเลยตนบินไปเพื่อให้กำลังใจทั้ง 2 ฝ่าย แล้วหลังจากนั้นก็ไปพูดคุยกับแม่น้องชมพู่ ว่าสนใจทำเป็นซีรี่ส์มั้ย ซึ่งคุณแม่ไม่อนุญาตเพราะเขาเป็นผู้สูญเสีย แต่ถ้าจับคนร้ายได้แล้วก็อาจจะให้ทำ ตอนนั้นค่อยมาคุยกัน ตนจึงพักกกกอก เดอะซีรี่ส์ไป
อุ๊บ วิริยะ เปิดเผยต่อว่า จากนั้นตนก็ได้มาคุยกับ 2 สามีภรรยาคู่นั้น โดยในตอนนั้น หมอปลากับคุณน้ำฟ้าได้เข้าไปสนิทก่อนแล้ว ซึ่งตนก็สงสาร บ้านยังเป็นฝาบ้านอยู่เลย ซึ่งดูแล้วก็หน่วยก้านดี ร้องเพลงได้ด้วย ตนจึงตัดสินใจส่งเสริมเขา เพราะในสายงานวงการบันเทิงก็เป็นสายของตนอยู่แล้ว แม้ละครหนังจะไม่ได้เล่นแล้ว ก็มาเดินแบบถ่ายแบบไป ซึ่งตนไม่ได้เงิน แต่จะหางานให้ ไม่ได้มีการเซ็นสัญญา เป็นการทำด้วยใจ ก็ทำร่วมกันอยู่ประมาณ 10 กว่างาน 2 สามีภรรยาก็ได้หลายแสนอยู่นะ
อุ๊บ วิริยะ เปิดเผยต่อว่า จนมาถึงจุดแตกหัก เมื่อตนรับงานกาแฟยี่ห้อหนึ่งให้เขา ซึ่งกาแฟเจ้านี้ก็จ้างตนด้วย 40,000 บาท จ้าง 2 สามีภรรยารวมกัน 80,000 บาท ต้องมีการถ่ายทำที่หน้าบ้านเขาที่กกกอก แล้วก็มีนักข่าวช่องหนึ่งในกองถ่าย เขามาไลฟ์สดด้วย แล้วพยายามคุยกับ 2 สามีภรรยาเป็นชั่วโมง จนสุดท้ายเขาให้ 2 สามีภรรยาถือกาแฟอีกยี่ห้อหนึ่ง เท่านั้นแหละทางผู้จัดการกาแฟหลักจึงมาถามตนว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนตนได้ตวาดนักข่าวคนนั้นไปเขาจึงหยุดแล้วก็ไม่มีการขอโทษใดๆ เลย
“จากนั้น 2 สามีภรรยาก็ได้โทรหาตนแล้วบอกว่า เขาจะขอหยุดรับงานจากตนทั้งหมดเลย เพื่อให้กำลังใจน้องนักข่าวคนนั้น ตนก็คิดว่าไม่แยกแยะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ในขณะที่คุยกันเขาแอบอัดเสียงตนด้วย เขาก็เอาคลิปที่อัดเสียงนี้ไปให้หมอปลาและคุณน้ำฟ้าฟังด้วย ตลอดชีวิตที่เกิดมาตนไม่เคยเจอเหตุการณ์ถูกอัดเสียงแบบนี้เลย ตนก็รู้สึกไม่สบายใจแล้ว หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์อีกหลายเรื่อง เช่น ด่าลับหลังว่าอีกะเทยตูดบิด ล้อเลียนท่าทางการเดินของตน และที่สำคัญที่สุดคือ 2 สามีภรรยาได้นำรูปของตนไปขึ้นรับบริจาค โดยได้มีการโอนเงินไปที่บัญชีส่วนตัวของเขา
เขาไม่ได้มาขออนุญาตตนเลย ต่อให้สนิทกัน หรือไม่สนิทกันมันก็ไม่ควรทำแบบนี้ เรื่องนำรูปตนไปรับบริจาค ตนก็ได้ปรึกษาทนาย ตนก็เริ่มไม่ไหวแล้ว มันมีเรื่องราวมากมาย จนไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย ถ้าคนเป็นแบบนี้ใครจะอยากร่วมงาน ทุกคนก็เห็นว่าเขาฆ่าตัวเอง คนแบบนี้ไม่ว่าจะวงการไหนๆ ก็จะไม่ตอนรับ ขอประกาศตรงนี้เลยว่า ไม่ขอกลับไปร่วมงาน ไม่ขอกลับไปเผาผีกันอีก” อุ๊บ วิริยะกล่าวปิดท้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อุ๊บ วิริยะ’ ยันจากกันด้วยดี หลังล้มงานแฟชั่น-ตัดสัมพันธ์ ‘ลุงพล’ อีกฝ่ายแจงขอรับงานเอง
