สหพันธ์ขนส่ง แถลงการณ์โต้ตำรวจ โวยตอนแถลงใช้ข้อมูลด้านเดียว ย้ำสติ๊กเกอร์ดาวเขียว ตัว B เป็น ‘ส่วยเฉพาะ’
จากกรณีรถบรรทุกที่มีการบรรทุกน้ำเกินกำหนด เกิดอุบัติเหตุตกท่อร้อยสายไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/1 กทม. และพบว่ามีการติดสติ๊กเกอร์ ตัวอักษร “B” ที่คาดว่าอาจเป็น “ส่วยสติ๊กเกอร์” ทว่าในเวลาต่อมา พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ออกมายืนยัน ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ในกรณีดังกล่าว
รวมถึงอ้างว่า ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยืนยันด้วยว่า ไม่เคยให้ข้อมูลเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์รูปดาวเขียว หรือตัวอักษร B กับ สน.พระโขนง ขณะที่ สน.พระโขนง ยังอยู่ระหว่างสอบพยาน
เรื่องราวนี้ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอบโต้คำชี้แจงของตำรวจ ความว่า ตามที่วันนี้ (14 พ.ย.2566 ) พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพบสติ๊กเกอร์ “ดาวสีเขียว” และตัวอักษรภาษาอังกฤษ “B” ที่หน้ารถบรรทุก ซึ่งเกิดอุบัติเหตุตกท่อกลางถนน ปากซอยสุขุมวิท 64 ว่า การตรวจสอบของจเรตำรวจแห่งชาติไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ ส่วนการสอบสวนของตำรวจนครบาล 5 ได้มีการอ้างในการแถลงข่าวว่า “ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้ยืนยันในการให้ข้อมูลกับตำรวจว่า สหพันธ์ไม่เคยได้รับการร้องเรียนเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ “รูปดาวสีเขียว” หรือ อักษรตัว “B” ดังกล่าวแต่อย่างใด”
จากคำแถลงดังกล่าว ทำให้ประชาชนอาจเข้าใจผิดคิดว่าสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยยืนยันว่าสติ๊กเกอร์ดังกล่าวไม่ใช่สัญลักษณ์ส่วย ซึ่งในเรื่องนี้ข้อเท็จจริงตำรวจได้นำข้อมูลเพียงส่วนเดียวมาแถลงเพื่อประโยชน์ของผู้ถูกกล่าวหาและเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ความจริงการให้ข้อมูลดังกล่าว สหพันธ์ได้ยืนยันชัดเจนว่าได้รับการร้องเรียนเรื่องการขายสติ๊กเกอร์เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกินเป็นเครือข่ายใหญ่ สามารถวิ่งรถได้ทั่วประเทศไทย เป็นการขายสติ๊กเกอร์ที่มีหน่วยงานหลายภาคส่วนที่รับผิดชอบเข้ามาเกี่ยวข้อง
พร้อมทั้งยังให้ข้อมูลว่า กรณีนี้เป็น ส่วยเฉพาะ บริษัทที่เคลียร์เฉพาะพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการวิ่งรถในการทำงาน ซึ่งก่อให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายได้ อาทิ บรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดได้ วิ่งรถเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ สามารถดูจากสภาพรถที่ผิดกฎหมาย เช่น ไฟด้านหน้ารถ และความผิดตามกฎหมาย
ดังนั้น การที่มีการกล่าวอ้างข้อมูลว่า สหพันธ์ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์นี้ไม่ถือเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมเข้าใจได้ว่า สติ๊กเกอร์ดังกล่าวไม่ใช่สัญลักษณ์ส่วย เพียงเพราะไม่เคยมีใครร้องเรียน รวมทั้งอาจทำให้สังคมเข้าใจได้ว่าส่วยสติ๊กเกอร์ไม่มีแล้วในประเทศไทย ทั้งที่ยังคงมีอยู่ทั้งในรูปแบบสติ๊กเกอร์และในรูปแบบส่งไลน์แจ้งทะเบียน
ทั้งนี้ สหพันธ์เป็นเพียงผู้แจ้งเบาะแสในเบื้องต้น ในส่วนของหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผบก.น.5 ยันผลสอบจเรฯไม่พบ ตร.เรียกรับผลประโยชน์ ปมส่วยรถบรรทุก เร่งสอบให้ได้ข้อสรุป
- โฆษกย้ำ ไม่พบ ตร.รับผลประโยชน์รถสิบล้อบรรทุกเกิน จ่อกำหนดโซนให้กลุ่มบรรทุกหนักวิ่ง
