รวบหนุ่มวิศวกร พร้อมนักศึกษาสาว ผันตัวขายยาชนิดใหม่ในออนไลน์ รายได้เดือนละเกือบ 2 ล้าน

รวบหนุ่มวิศวกร พร้อมนักศึกษาสาว ผันตัวขายยาชนิดใหม่ในออนไลน์ รายได้เดือนละเกือบ 2 ล้าน

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2

ร่วมกันจับกุม น.ส.ชมพูนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี นักศึกษาสาว นายอานุภาพ (สงวนนามสกุล) วิศวกร อายุ 30 ปี และนายนพพร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี พร้อมของกลางยาอี 492 เม็ด ยาไอซ์ 40.44 กรัม คีตามีน 375.44 กรัม Happy Water ซองสีแดง 198 ซอง เยลลี่ (แอมเฟตามีน) 58 ซอง คอลลาเจน 35 ซอง MDMA 8.37 กรัม โคคาอีน (ชนิดผง) 2.21 กรัม โคเคอีน (ชนิดแท่ง) 1 แท่ง น้ำหนัก 10.05 กรัม ไฟว์ไฟว์ 95 เม็ด และอื่นๆรวม 12 รายการ

ตรวจยึดเงินสด 502,000 บาท รถยนต์ เมอร์เซเดส -เบนซ์ รุ่น SLK 200 สีดำ พร้อมกุญแจจำนวน 1 ชุด สมุดบัญชีธนาคาร 22 เล่มและอื่นๆ12 รายการ

Advertisement

โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ว่า “1. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี, Happy Water หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 2. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

3. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, ยาอี, Happy Water, คอลราเจน หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า 4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือMDMAหรือเอ็กซ์ตาซีหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า 5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 6. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อ จำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า”

Advertisement

โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ว่า “1. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี, Happy Water หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, 2. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน,

3. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, ยาอี, Happy Water, คอลราเจน หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, 4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาอีหรือMDMAหรือเอ็กซ์ตาซีหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ,5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

6. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า” 7. มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, ยาอี หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, 8. มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต, 9. มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 3 ว่า “1. มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Happy Water, เยลลี่, คอลลาเจน หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, 2. มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, 3. มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

4. มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี, Happy Water, คอลราเจน, เยลลี่ หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, 5. มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า” โดยตรวจค้นจับกุมได้ที่คอนโดหรู ถนนประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายไทยชื่อเล่น นายดิว (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) อายุประมาณ 30 – 35 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 และหญิงไทยชื่อเล่น น.ส.บีม (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) อายุประมาณ 20-25 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 พักอาศัยอยู่ที่อาคาร F คอนโดหรู ถนนประชาอุทิศ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งร้านขายในแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมอย่างโจ่งแจ้ง โดยมีการเสนอขายยาเสพติดหลากหลายชนิด และจัดส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าผ่านการขนส่งแกร็บไบค์

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร.มอบให้เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ต่อมาชุดจับกุมร่วมกันออกเดินทางไปถึงบริเวณอาคาร F และกระจายกำลังกันเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณดังกล่าวกระทั้งพบน.ส.ชมพูนุช เดินออกมาจากประตูทางเข้าอาคารแล้วนำกล่องพัสดุมาวางไว้บริเวณที่วางของบริเวณล็อบบี้อาคาร จากนั้นไม่นานมีแกร็บไบค์เข้ามารับกล่องพัสดุที่ น.ส.ชมพูนุช นำมาวางไว้ออกไป จากนั้น น.ส.ชมพูนุช เดินออกมาจากประตูทางเข้า โดยถือกล่องพัสดุ 2 กล่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ พิจารณาแน่ชัดแล้วว่าเป็นยาเสพติดบรรจุใส่กล่องพัสดุ เพื่อนำมาวางไว้รอให้แกร็บไบค์

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นกล่องพัสดุ 2 กล่อง พบว่าภายในบรรจุยาเสพติด จากการสอบถาม น.ส.ชมพูนุช ให้การรับว่ากล่องพัสดุดังกล่าวตนนำมาจากห้องพัก โดยมีนายอานุภาพ เป็นผู้จ้างให้นำมาวางไว้บริเวณที่วางของและแจ้งว่านายอานุภาพ ยังอยู่ที่ห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ น.ส.ชมพูนุช พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อพบนายอานุภาพเปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดหลายหลายชนิดตามรายการของกลาง สอบถามนายอานุภาพ รับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมทั้งสอง

จากการสอบถามนายอานุภาพ ให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่ามีห้องพักอีก 1 ห้องในคอนโดเดียวกันโดยได้เช่าไว้พักอาศัยพร้อมเพื่อเก็บยาเสพติด และบรรจุยาเสพติดใส่กล่องพัสดุ เพื่อนำส่งให้กับลูกค้าผ่านแกร็บไบค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายอานุภาพ พาเข้าไปตรวจค้นพบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งสอบถามนายอานุภาพรับว่าของกลางยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเองโดยมีไว้เพื่อจำหน่าย ให้กับลูกค้าทั่วไปทางออนไลน์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น นักเที่ยวกลางคืนและกลุ่มปาร์ตี้ต่างๆ

รายได้ต่อเดือนประมาณเกือบ 2 ล้านบาท จากนั้นจึงนำผู้ถูกจับทั้งสองคนมาจัดทำประวัติและบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาจากการสอบถามนายอานุภาพให้การว่า ยาเสพติดที่พบภายในห้องพักสั่งซื้อมาจากนายโหน่ง (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) และนายนพพร จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.ติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดกับนายนพพร โดยวิธีสั่งซื้อผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยนัดรับส่งมอบยาเสพติดกันที่อาคาร F คอนโดดังกล่าวจนกระทั่งนายนพพร ถือถุงผ้ามาส่งจึงตรวจค้นพบยาเสพติดตามรายการของกลาง สอบถามนายนพพร รับว่ายาเสพติดที่ตรวจค้นนั้นกำลังจะนำมาส่งให้กับลูกค้าที่ติดต่อสั่งซื้อไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมก่อนพาเข้าตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางยาเสพติดเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก รับว่าของกลางทั้งหมดที่ตรวจค้นพบนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเที่ยวกลางคืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image