‘ชาญวิทย์’ มองเลือกตั้งมาเลเซียสะเทือนอาเซียน-ไทย โดยเฉพาะ ‘คนคิดเลื่อนเลือกตั้ง’

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา, สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา ม.ธรรมศาสตร์, วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์และมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ จัดเสวนา “เลือกตั้งมาเลเซียครั้งที่ 14: ทำไม ดร.มหาธีร์ จึงชนะเลือกตั้ง กับ อนาคตที่ประชาชนเลือกเองได้” วิทยากรโดย ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีม.ธรรมศาสตร์, รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน, ดร.ชัยวัฒน์ มีสันฐาน อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ดำเนินรายการโดย นายอัครพงษ์ ค่ำคูณ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์

ดร.ชาญวิทย์กล่าวว่า เมื่อปี2016 ตนไปมาเลเซียช่วงที่ผู้คนรณรงค์ต่อต้านนายนาจิบ ราซัก นายกฯในขณะนั้น ที่ผู้คนไม่พอใจจากเรื่องการคอร์รัปชั่น แต่การต่อต้านรัฐบาลมีโทษรุนแรงมาก มีนักเขียนการ์ตูนล้อเลียนที่ถูกดำเนินคดีที่มีโทษจำคุกถึง 40 ปี คนจำนวนมากเห็นว่าไม่มีทางโค่นนาจิบได้ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกฯลาออกแล้วเลือกตั้งใหม่ โดยมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ 1.ขอเลือกตั้งที่สะอาด 2.รัฐบาลสะอาด ไม่โกง 3.สร้างประชาธิปไตยโดยรัฐสภาให้เข้มแข็ง 4.ให้สิทธิเห็นต่าง 5.ให้อำนาจต่อรองรัฐชายขอบอย่างซาบาห์และซาราวัก

“มาเลเซียต่างจากไทยที่ไม่เรียกอำนาจปืน อำนาจทหารให้เข้ามาทำรัฐประหาร แต่ยังไงก่อนนี้คนมาเลเซียก็คิดว่าเลือกตั้งแล้วนาจิบก็กลับมาได้ เพราะฐานเสียงคือคนมลายูหรือภูมิบุตร ส่วนฝ่ายต่อต้านที่เดินขบวนคือคนเชื้อสายจีนและอินเดียในมาเลเซีย คนเชื่อว่ายังไงนาจิบก็ชนะวันยังค่ำ เพราะคนเชื้อสายภูมิบุตรมีมากกว่า ถ้ากลุ่มภูมิบุตรไม่เปลี่ยนใจ เสียงค้านของคนจีนและอินเดียก็น้อยกว่าวันยังค่ำ แต่สุดท้ายก็พลิกผัน

“ในแง่หนึ่งเมื่อพรรคมหาธีร์ชนะ จะพูดได้ไหมว่ามาเลเซียกำลังเป็นประชาธิปไตย…ก็พูดได้ แต่ผมคิดว่ามาเลเซียคล้ายอีกหลายประเทศในอาเซียนที่เป็นคณาธิปไตย ฝ่ายชนะก็เป็นกลุ่มเดิม มีส่วนคล้ายประเทศไทยที่มีคนกลุ่มหนึ่งผลัดกันไปมา ฟิลิปปินส์ก็เป็นกลุ่มคน จากมาร์กอส ก็มีอาคิโน เพราะสามีถูกยิง ต่อมาก็มีลูกเธออีก กรณีอินโดนีเซียก็เช่นเดียวกัน ซูการ์โน-ซูการ์โนบุตรี พม่าก็อองซาน-อองซาน ซูจี มีความเชื่อมเรื่องสืบสายเลือดในวัฒนธรรมที่เป็นทั้งพุทธคริสต์มุสลิม คิดว่ามีครอบครัวหนึ่งตระกูลหนึ่งเหมาะสมเป็นผู้ปกครอง

Advertisement

“การเลือกตั้งมาเลเซียเกิดกระแสที่คนตื่นเต้นมาก จะมีผลสูงมากต่อการเมืองภูมิภาค โดยเฉพาะผลต่อประเทศไทย เชื่อว่าคนจำนวนหนึ่งกำลังหนาวและคิดว่าทำยังไงให้เลื่อนเลือกตั้งได้อีก แต่ผมเชื่อว่าเลื่อนยากมาก เพราะเลื่อนมาหลายหนแล้วอะไรที่ทำซ้ำๆ ก็กลายเป็นเบื่อ ซึ่งคำนี้ลึกกว่าที่เราคิด แรงกระเพื่อมจนเป็นสึนามิน่าจะแรงมาก จนน่าคิดต่อว่าเมื่อมหาธีร์กลับมา รัฐบาลไทยกับรัฐบาลมาเลเซียจะเอาไงกันดี” ดร.ชาญวิทย์กล่าว

อ่าน นักวิชาการชี้ คำว่า ‘เบื่อ’ จากพิษข่าวทุจริต ทำเลือกตั้งมาเลเซียพลิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image