เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติ
รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา บอกว่าไม่สามารถล้างไพ่ใหม่เพื่อยกคำขอทั้งหมดได้เพราะติดปัญหาTRIPS Agreement และมาตรา 17 วรรคท้ายของ พ.ร.บ.ทรัพย์สินทางปัญญาที่เขียนว่า “ในกรณีที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีแห่งความตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสิทธิบัตร หากคําขอรับสิทธิบัตรเป็นไปตามที่กําหนดในความตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศดังกล่าว ให้ถือว่าคําขอดังกล่าวเป็นคําขอรับสิทธิบัตรตามพระราชบัญญัตินี้” กรรมาธิการพยายามเสนอแนะว่าควรยกเลิกคำขอตามมาตรา 9(5) ที่เขียนว่า การประดิษฐ์ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.นี้ คือ…(5) การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี อนามัยหรือสวัสดิภาพของประชาชน และมาตรา 5 ที่เขียนว่า “ภายใต้บังคับมาตรา 9 การประดิษฐ์ที่ขอรับสิทธิบัตรได้ต้องประกอบด้วย ลักษณะดังต่อไปนี้
(1) เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่
(2) เป็นการประดิษฐที่มีขั้นตอนการประดิษฐ์สูงขึ้น และ
(3) เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถประยุกต์ในทางอุตสาหกรรม
ซึ่งอธิบดีสามารถยกเลิกได้ตามมาตรา 30 ที่เขียนว่า
“ เมื่อได้ประกาศโฆษณาตามมาตรา 28 แล้ว ถ้าปรากฏว่าคําขอรับสิทธิบัตรไม่ชอบด้วยมาตรา 5 มาตรา 9 และ…ให้อธิบดีสั่งยกคำขอสิทธิบัตร และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งคําสั่งไปยังผู้ขอรับสิทธิบัตรรวมทั้งผู้คัดค้าน ในกรณีที่มีการคัดค้านตามมาตรา 31 และให้ประกาศโฆษณาคําสั่งนั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดโดย กฎกระทรวงแต่ถ้ายกคำขอ บริษัทเหล่านี้สามารถอุทธรณ์ได้โดยใช้เวลานานถึง 5 เดือน”
ดังนั้น เมื่อกรมไม่สามารถยกคำขอในทันที และเห็นว่าเป็นยารักษามนุษย์และทยอยพิจารณาไปตามเอกสารหลักฐานโดยใช้เวลานาน เพราะกรมมีคนน้อยและขาดผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ถ้าคลายล็อกกัญชาและอนุมัติสิทธิบัตรย้อนหลังได้ตั้งแต่วันขอ หากองค์การเภสัชกรรม หรือมหาวิทยาลัยรังสิตจะขอจดสิทธิบัตรยา อาจมีปัญหา…ถ้าขั้นตอนการประดิษฐ์เกิดไปเหมือนกับ 7 บริษัทเหล่านี้
ข้อสรุปของวิป สนช.คือ เดินหน้า ประธานจึงสั่งบรรจุวาระหนึ่งในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ตั้งกมธ. 29 คน จากกระทรวงสาธารณสุข 5 คน เมื่อรู้ปัญหาแล้วจะไปช่วยกันพิจารณาหาทางออกให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับประเทศชาติและคนไทยต่อไป
อ่านเพิ่มเติม
นิติศาสตร์ ม.รังสิตเตรียมการทางกฎหมาย พร้อมระดมรายชื่อร้องนายกฯปม ‘สิทธิบัตรกัญชา’