| ที่มา | น.10 นสพ.มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 2 ม.ค.2562 |
|---|---|
| ผู้เขียน | นฤมล รัตนสุวรรณ์ |
หมายเหตุ : พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์พิเศษ มติชน ถึงผลงานในรอบ 2 ปี และทิศทางการบริหารงานเมืองปี 2562
ปี 2561 เป็นปีที่ 2 ที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง บริหาร กทม. ในฐานะพ่อเมือง ปีที่ผ่านมาผู้ว่าฯอัศวินพยายามผลักดันหลายโครงการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวกรุงเทพฯ
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เริ่มจากบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน หรือวอเตอร์แบงก์ โดย กทม.ผุดโครงการไว้ 5 แห่ง แต่บริเวณหมู่บ้านเศรษฐกิจถูกชาวบ้านคัดค้าน เนื่องจากปัญหารถติดและหวั่นเครื่องจักรก่อสร้างเสียงดังรบกวนชาวบ้าน กทม.ไม่ขัดข้อง สั่งยุติโครงการ แต่หากน้ำท่วมจะมาโทษ กทม.ไม่ได้ เพราะพยายามแก้ไขให้แล้ว แต่ชาวบ้านไม่เอา ทั้งที่ใช้พื้นที่ก่อสร้างไม่มากนัก ซึ่งปัจจุบันเสร็จแล้ว 1 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 3 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า นอกจากนี้ พยายามปรับปรุงถนน ผิวจราจร และทางเท้าให้ดีขึ้น รวมถึงนโยบายจัดระเบียบทางเท้า ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว
“ส่วนตัวมองว่าคนไทยเราอยู่กับความเคยชินมานาน เคยทำอย่างไรก็จะทำเช่นนั้น แต่ผมมองว่าหากประเทศไทยในโลกไม่มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข ย่อมไม่เกิดพัฒนาและเจริญเติบโต เราจะอยู่กันเช่นนี้หรือไม่ 50 ปี 100 ปี ต่อไปยังคงความไร้ระเบียบใช่หรือไม่ ต่อไปอนาคตลูกหลานจะใช้ชีวิตอย่างไร ที่ผ่านมา กทม.พยายามชี้แจงให้ประชาชนทราบ มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกันพยายามออกมาตรการห้ามจอดหรือขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ใช่จัดระเบียบแม่ค้าออกไป แล้วมอเตอร์ไซค์มา” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ส่วนโครงการติดไฟฟ้าส่องสว่างภายในสวนสาธารณะและเปลี่ยนพื้นที่เปลี่ยวเป็นพื้นที่โปร่ง พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ล่าสุด กทม.ได้รับการประสานงานจาก ปตท. เพื่อขอบริจาคเงิน 50 ล้านบาท ในการนำมาพัฒนาพื้นที่เปลี่ยวเป็นพื้นที่สวนสาธารณะทั้งหมด
“ตามที่ กทม.ได้ทำการสำรวจพบมีพื้นที่เปล่า 4,000 ไร่ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งผมได้ปฏิเสธขอรับเงิน แต่อยากให้ ปตท.นำเงินไปพัฒนาเป็นสวนให้ เนื่องจากการรับเงินบริจาคจำนวนมากและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างของระบบราชการมีความล่าช้า รวมถึงเพื่อความโปร่งใสในการใช้เงิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบพื้นที่ทั้งหมด คาดจะเริ่มดำเนินการช่วงต้นปี 2562″ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ขณะที่โรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (บ่อนไก่) มีพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 1 หมื่นตารางกิโลเมตร พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เนื่องจาก กทม.ได้เช่าอาคารจากสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นแบบปีต่อปี ต่อมาสัญญาได้สิ้นสุด และสำนักทรัพย์สินฯจะนำไปใช้เป็นศูนย์วันบางกอก ทำให้ กทม.ต้องจัดหาพื้นที่ใหม่ เพื่อจัดตั้งโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (บ่อนไก่) เบื้องต้น มีเอกชนสนใจขอบริจาคเงินให้ กทม. 40 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงเรียนฝึกอาชีพให้ แต่ผมก็ปฏิเสธรับเงินเช่นเดิม โดยขอให้ใช้วิธีสร้างและมาในรูปแบบบริจาคให้ กทม. ตอนนี้ กทม.สามารถจัดหาพื้นที่ทดแทนได้แล้ว บริเวณสวนหลวง ร.9 เขตประเวศ เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างออกแบบเพื่อให้เอกชนจัดสร้างให้ โดยเป็นรูปแบบอาคารทั้งหมด 3 หลัง และมีขนาดเนื้อที่เท่าเดิม คาดว่าจะเริ่มตอกเสาเข็มในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเดือนพฤษภาคมจะมีอาคารเสร็จอย่างน้อย 1 หลัง ส่วนอีก 2 หลัง จะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2562
ในด้านการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ได้จัดโครงการพบแพทย์ภายใน 60 นาที จัดตั้งศูนย์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) อบรมอาสาสมัครดูแลผู้ป่วย (Care Giver) สำหรับดูแลผู้ป่วยติดเตียง นอกจากนี้ ยังมีผู้สนใจร่วมบริจาคตู้น้ำ 4,000 ตู้ ให้โรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 437 แห่ง แต่ระบุเงื่อนไขให้ กทม.ตั้งงบประมาณเปลี่ยนไส้กรองทุกปี
“ผมจึงขอปฏิเสธ เพราะจะเป็นการผูกมัดและอาจถูกครหาได้ว่าเอื้อประโยชน์กับเอกชนผู้บริจาค อาจเกิดปัญหาในอนาคต จึงแจ้งกลับให้การบริจาคครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไข ขณะเดียวกัน ยังไปหารือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยว่า เช่นนี้ กทม.รับบริจาคได้หรือไม่ โดย ป.ป.ช.แจ้งว่าต้องไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น ทำให้เอกชนตอบรับตกลง และจะเริ่มทยอยนำตู้น้ำมาตั้งภายในโรงเรียนต้นปี 2562 เบื้องต้นส่งมอบให้ก่อนประมาณ 500 ตู้ ตั้งแต่มานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ไม่ว่าจะทำอะไร ผมก็ต้องหารือผู้รู้ทั้งหมด ทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ ป.ป.ช.ทุกครั้ง ก่อนจะทำอะไร” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีโครงการเปลี่ยนนมถุงโรงเรียนเป็นนมกล่อง ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.ได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งไม่ขอรับนมถุงพลาสติก และขณะนี้โรงเรียนในสังกัด กทม.ทุกแห่งได้เปลี่ยนเป็นนมกล่องทั้งหมดแล้ว และ กทม.ยินดีจะเพิ่มค่าใช้จ่ายเปลี่ยนจากถุงเป็นกล่อง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มกล่องละ 1 บาท โดยนโยบายนี้เพื่อต้องการลดการใช้ถุงพลาสติก เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี
ขณะที่การปรับภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่างและโครงการแต้มสีกรุงเทพฯ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.พยายามดำเนินการต่อเนื่อง การเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องยอมรับว่า กทม.ลำบากใจในการเข้าบริหาร เนื่องจากตลาดประสบกับปัญหาหลายอย่างมาก และมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ กทม.พยายามแก้ปัญหาทั้งลดค่าเช่าแผง แก้ปัญหาหนี้สินผู้ค้า ลดค่าบริหารจัดการ แก้ปัญหามาเฟีย ฯลฯ กระทั่งเริ่มเข้าบริหารตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยัน กทม.ไม่ต้องการกำไรและแสวงหาผลประโยชน์ แต่ต้องการให้กลุ่มคนรากหญ้าอยู่ได้
ไม่หมดเท่านั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ยังได้ดำเนินโครงการทุนเอราวัณ ซึ่งเป็นทุนให้เปล่า โดยมีเงื่อนไขผู้ที่ได้รับทุนเมื่อจบการศึกษา ต้องบรรจุงานในหน่วยงานของ กทม. ส่วนโครงการทุนแพทย์เป็นโควต้าให้เรียนฟรี เพื่อทดแทนบุคลากรแพทย์ และครูที่ กทม.ขาดแคลนจำนวนมาก รวมถึงโครงการเด็กหลังห้อง (Friend to friend) นำนักศึกษาไปเรียนภาคฤดูร้อนยังต่างประเทศ รวมถึงโครงการล้อ ราง เรือ เป็นการเชื่อมต่อการเดินทางครบวงจร อีกทั้งมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชยังบริจาคที่ดินให้ กทม. 20 ไร่ โดยปี 2562 กทม.จะดำเนินการก่อสร้างสถานีดับเพลิงย่อยบางบอน แฟลต 7 แท่ง สำหรับลูกจ้าง ข้าราชการ ครู พนักงานดับเพลิง และเทศกิจ ในสังกัด กทม. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากรของ กทม. ซึ่งโครงการนี้อาจใช้งบประมาณเกือบ 1,000 ล้านบาท
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อไปว่า ยังมีโครงการที่ผลออกมาไม่ค่อยน่าพอใจ แต่ยังดำเนินการต่อไป เช่น โครงการสวยในซอย ซึ่งเป็นโครงการให้ชุมชนเกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์ซอยให้สวยงาม แต่ยอมรับว่าโครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บางชุมชนไม่เข้มแข็ง ขาดการมีส่วนร่วมของชุมชน เช่นเดียวกับโครงแต้มสีกรุงเทพฯ ที่มีผลงานยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร รวมทั้งโครงการคอกขยะ ที่ยังไม่สอดคล้องกับวิถีคนเมือง เพราะคนไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารน้ำ เปียก ไม่เหมือนต่างชาตินิยมรับประทานอาหารแห้ง จึงเกิดปัญหากลิ่น น้ำขยะไหลเจิ่งนองตามทาง
ส่วนโครงการปี 2562 นั้น พล.ต.อ.อัศวิน ออกตัวว่า ก่อนอื่นผมจะพยายามผลักดันโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วให้สำเร็จก่อน และขณะเดียวกันกำลังคิดหลายโครงการเพิ่มเติม แต่ยังไม่ตกผลึก โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน ผิวจราจรปัญหาทางเท้าให้ดีขึ้น การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งปัจจุบัน กทม.มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายแล้ว เพราะที่ผ่านมา กทม.พยายามสร้างสวนสาธารณะ สวนหย่อม และปรับพื้นที่เปลี่ยวเป็นพื้นที่โปร่ง มีต้นไม้เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ต้น ส่วนปัญหาน้ำท่วมขัง ปี 2562 คนกรุงเทพฯ ไม่ต้องห่วง เพราะหลายโครงการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปีนี้ การจัดการปัญหาขยะที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น และพัฒนาโครงการจราจรให้สมบูรณ์
“ผมคิดว่าอีก 6-7 เดือน ผมคงหมดวาระแล้ว และมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ จึงพยายามสานต่อโครงการเดิมให้เสร็จ และพยายามทิ้งทวนโครงการที่ดีให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ช่วยสานต่อให้สำเร็จด้วย แต่จะสานต่อ ไม่สานต่อก็แล้วแต่คนใหม่” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ในตอนท้าย พล.ต.อ.อัศวิน ยังเปิดเผยถึงอนาคตทางการเมืองด้วยว่า มีหลายพรรคการเมืองมาทาบทามแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจ
“หากประชาชนเลือกผม ก็ไม่แน่ว่าอาจลงก็ได้ ต้องซาวเสียงประชาชนก่อน แต่หากพูดความจริงใจ ถามว่าสนใจเล่นการเมืองหรือไม่ เอาจริงๆ ผมไม่สนใจหรอก ผมเหนื่อย ตอนนี้มีคนมาทาบทามผมเยอะแยะ แต่ไม่ใช่ทุกพรรค ตอนนี้มีอย่างน้อย 3 พรรคใหญ่มาทาบทาม แต่ผมบอกว่าค่อยว่ากัน ให้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ตอนนี้ผมยังไม่คิด ผมขอพักผ่อนนอนหลับก่อน” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ส่วนผู้บริหารระดับสูงที่เป็นทีมงานนั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครมาบอกว่าจะลาไปเล่นการเมืองเต็มตัว มีแต่คนมาขออยู่ด้วย
ซึ่งหลังจากนี้ คงต้องจับตามองกันดีๆ
