เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีแพทย์ 2 คน ถูกแจ้งข้อหาสมคบขายยาลดความอ้วนผิดกฎหมายว่า ที่ประชุมแพทยสภาคุยกันเรื่องนี้แล้ว แต่เนื่องจากยังไม่ได้ข้อมูลหลักฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดังนั้น จึงยังไม่สามารถตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ เพราะข้อมูลที่มีวันนี้มีเพียงข้อมูลจากสื่อมวนชนเท่านั้น แต่ความจริงอาจจะมีมากกว่านั้น
“อย่างไรก็ตาม คาดว่า อย.จะสรุปข้อมูลส่งให้ได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากได้มาแล้วคงสามารถตั้งกรรมการฯ ได้ รวมถึงจะสามารถเรียกคุยกับแพทย์ 2 รายได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แพทย์ทั้ง 2 คน ยังไม่ได้มีการประสานเข้ามาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าครั้งนี้ไม่ใช่ความเสียหายจากการรักษา” พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าว
ด้าน นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ อย.บุกจับกุมกลุ่มนายทุนที่ร่วมมือกับแพทย์ในเครือข่ายลักลอบนำยาลดความอ้วน ที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 ตัวยาเฟนเตอร์มีน (ชื่อการค้า Duromine และ Panbesy) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการสืบสวนยังพบว่า อาจจะมีบุคลากรทางการแพทย์ไม่ต่ำกว่า 70 ราย เข้าไปมีส่วนร่วมในการซื้อยาลดความอ้วนจาก อย. เพื่อนำส่งให้กับกลุ่มนายทุน นำไปขายต่อผ่านช่องทางออนไลน์นั้น จากกรณีที่มีบุคลาการทางการแพทย์แอบลักลอบนำยาลดความอ้วนดังกล่าว ออกมาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ จนทำให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภคจนถึงแก่ชีวิต ตัวยาดังกล่าวเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องสั่งจ่ายภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะต้องใช้ยาในปริมาณที่ถูกต้อง
นพ.ฆนัท กล่าวว่า การลดน้ำหนักในคนอ้วนจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง ทำให้มีอายุยืน และสุขภาพที่ดีขึ้น แต่การลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายให้เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาลดความอ้วนที่มีผลต่อการกดระบบประสาท นอกจากนี้ ควรมีการอบรมแพทย์ในเรื่องของการใช้ยาที่เหมาะสมด้วย จึงเห็นควรให้ อย.ถอนยาดังกล่าว
