เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 4 แกนนำ กปปส. คดีร่วมกบฏ ว่า ภายหลังศาลตัดสินยกฟ้อง ตนรู้สึกดีใจ แล้วก็โล่งใจมาก เพราะต้องบอกว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ต้องเดินทางมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวนมาโดยตลอดรวมกว่า 100 นัด
“ซึ่งที่ผ่านมา ผมและจำเลยรวม 4 คน ที่ถูกยกฟ้องวันนี้ ไม่เคยคิดหนีศาล ไม่เคยเบี้ยวนัดกว่า 100 นัด และไม่มีเจตนาที่จะคิดหลบหนี แม้พวกผมจะเดินทางไปต่างประเทศ ทุกครั้งก็จะเดินทางกลับมาให้ทันนัดศาล และตรงต่อเวลาตลอด โดยยืนยันจำเลยทุกคนไม่เคยเบี้ยว พร้อมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล ซึ่งศาลท่านเองก็พิสูจน์ตามประจักษ์หลักฐานพยานจนในที่สุดมีคำพิพากษายกฟ้อง” นายสกลธี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการแบ่งงานรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 คน ยังดีลไม่ลงตัว หลังมีปัญหารองผู้ว่าฯ ทั้ง 2 คนลาออกจากตำแหน่ง นายสกลธี กล่าวว่า ในส่วนของการแบ่งงานก็ขึ้นอยู่กับอำนาจ และดุลพินิจของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งจะพิจารณาและมอบหมายตามความเหมาะสม เบื้องต้นทราบว่าจะมีการแบ่งงานรองผู้ว่าฯ กทม.ไม่ต่างจากเดิม อาจมีการปรับเปลี่ยน โยกย้าย เกลี่ยงานบางสำนักใหม่ ส่วนงานเดิมที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ก็จะมอบหมายให้รับผิดชอบตามเดิม
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับกระแสข่าวได้รับมอบหมายงานด้านสำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย เพราะรองผู้ว่าฯ คนนอื่นไม่มีความถนัด นายสกลธี กล่าวว่า ถึงแม้จะเป็นงานที่ไม่ถนัดหรือมีความเชี่ยวชาญในสำนักงานดังกล่าว แต่ก็พร้อมที่จะได้ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ คู่ขนานกับการทำงานที่ได้รับมอบหมายเดิม โดยเฉพาะสำนักเทศกิจ (สนท.) และสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ซึ่งจะได้รับคำสั่งโดยตรงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เร่งรัดโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพมหานคร รวมถึงปัญหาการจราจรและทางเท้า
