เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเตรียมปล่อยลูกช้างป่าห้วยขาแข้งพลัดหลงคืนป่า จากการเฝ้าสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังลูกช้างอยู่บนห้างบนต้นไม้ พบว่า เมื่อคืนนี้ (คืนที่ 7 ของการปล่อยไว้ในคอก เตรียมปล่อยในป่า) ลูกช้างส่งเสียงร้อง 42 ครั้ง หลับพักผ่อน 1 รอบ 2 ชั่วโมง 41 นาที กินนม 4 รอบ 13 ลิตร กินข้าวต้ม 1 รอบ 2 ลิตร
โดยพฤติกรรมการตอบโต้ระหว่างลูกช้างกับช้างฝูงแม่ ดังนี้
– เวลา 01.40 น. มีเสียงหักกิ่งไม้ และมีเสียงช้างฝูงแม่ร้องทางด้านทิศตะวันออก ห่างจากคอกประมาณ 700 เมตร
– เวลา 02.30 น. ช้างฝูงแม่ร้อง 1 ครั้ง ลูกช้างร้องตอบกลับ 3 ครั้ง
– เวลา 03.55 น. ช้างฝูงแม่ร้อง 3 ครั้ง ลูกช้างร้องตอบ 3 ครั้ง
– เวลา 04.00 น. ช้างฝูงแม่ร้อง 10 ครั้ง ลูกช้างร้องสลับกัน 13 ครั้ง แล้วช้างฝูงแม่ก็เงียบไป มีแต่ลูกช้างส่งเสียงร้องต่ออีก 3 ครั้ง
ในระหว่างการตอบโต้ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นลูกช้างมีอาการยืนนิ่ง หูกาง แล้วส่งเสียงร้อง พยายามที่จะปีนออกจากคอก และชูงวงไปในทิศทางที่มีเสียงจากฝูงแม่ ลักษณะเหมือนถูกเรียกให้ตามไป แต่ไม่สามารถตามออกไปได้ โดยคืนวันนี้ (คืนวันที่ 8) นายธานี วงค์นาค หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังใช้ดินโคลนทาตัวและเสื้อผ้าเพื่อกลบกลิ่นคน การที่จะไม่ให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเสี่ยงต่อสัตว์ผู้ล่า (เสือ) และช้างโทนที่อาจเข้ามาทำร้ายลูกช้างได้ สำหรับวิทยุติดตามตัวด้วยระบบวิทยุ (Radio Collar แบบ VHF) ได้หลุดจากขาช้าง เจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำได้มาใส่ให้ใหม่แล้ว
โดยสรุปขณะนี้ลูกช้างอยู่ในคอกเตรียมปล่อยในป่าต่อเนื่องนาน 7 วัน 7 คืนแล้ว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เห็นว่า เห็นควรให้มีการประชุมทบทวนเพิ่มเติม แนะนำวิธีปฏิบัติในการปล่อยลูกช้างคืนป่าขึ้นที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ หากแม่ช้างยังไม่มารับลูกช้าง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) จะได้นำผลตามคำแนะนำในที่ประชุมมาปฏิบัติ ให้การปล่อยลูกช้างคืนป่าสำเร็จตามเป้าประสงค์โดยเร็วต่อไป
