ผอ.สวนสัตว์เขาเขียว ไม่รู้ตลาดมืดต้องการเก้งเผือก ชี้ไม่คุ้มเอาชีวิตราชการมาเสี่ยง
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายอรรถพล ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เขาเขียว เปิดเผยว่า เก้งเผือกที่หายไปจากสวนสัตว์สงขลา เป็นเก้งเผือกที่เพาะเลี้ยงจากสวนสัตว์ดุสิต โดยได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงรับการถวายมาจากชาวบ้านที่จับได้ในป่า ชื่อ เพชร คาดว่าจะเป็นปี 2555 ต่อมาเก้งเผือกเพชรก็แพร่ขยายพันธุ์และออกลูกออกหลานมาเป็นเก้งเผือกบ้าง และเก้งปกติสีน้ำตาลบ้าง ซึ่งได้ส่งเก้งเผือกไปยังสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่วนที่สวนสัตว์เขาเขียวตอนนี้มีเก้งเผือกอยู่ 2 ตัว โดยปกติของเก้งเผือก ถือเป็นยีนส์ด้อย อาจจะเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างเก้งสีน้ำตาลด้วยกันกลายเป็นเก้งเผือกก็มี ซึ่งจะมีลักษณะพิเศษลำตัวเป็นสีขาวทั้งตัว มีตาสีแดง จมูกสีชมพู และมีขนาดลำตัวเท่าเก้งปกติ
นายอรรถพล กล่าวถึงความต้องการเก้งเผือกในตลาดมืด ว่า ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยได้ข่าวว่าเก้งเผือกเป็นที่ต้องการของตลาดมืด ยกเว้นพวกที่ต้องการนิยมชมชอบสัตว์แปลก แต่ไม่น่าจะมีราคาแพงมากถึงขั้นยอมเสี่ยงเอาชีวิตราชการมาแลก หรือจะนำไปขายเป็นเนื้อ เก้งเผือกก็ตัวไม่ใหญ่ ไม่น่าจะคุ้มค่าที่จะขโมย สัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์ถือเป็นทรัพย์สินราชการ จะมีกฎระเบียบอย่างชัดเจน กรณีสัตว์ตายหรือสัตว์สูญหาย จะมีการแสดงบัญชีให้กับองค์การสวนสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ถ้าตาย ตายด้วยสาเหตุอะไร ถ้าหาย อะไรทำให้สูญหาย เช่น เกิดฝนตกลมแรงต้นไม้ล้มทับกรง กรงเสียหายทำให้สัตว์หลุดหายไป หรือมีงูเข้ามากิน ซึ่งทุกอย่างต้องมีหลักฐานชัดเจน
นายอรรถพล เผยว่า นายสุริยา เป็นคนใจดีกับลูกน้อง และตั้งใจทำงานมาก รู้สึกเสียใจที่องค์การสวนสัตว์ต้องมาสูญเสียบุคลากรดีๆ อย่างนายสุริยาไป ส่วนสาเหตุของการถูกยิง ในความเห็นของตนยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร อย่างกรณีการโยกย้ายนั้น การทำงานข้าราชการมีการโยกย้ายกันโดยปกติมาเป็น 20 – 30 ปีแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เบามาก ตนจึงคาดเดาไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทราบว่าทางผู้บริหารระดับกระทรวงทรัพยากรฯ ได้ลงมาตรวจสอบเพื่อให้ความกระจ่างต่อสังคมแล้ว ซึ่งต้องมีการสอบสวนอย่างรอบด้านถึงสาเหตุการลงมือยิงที่แท้จริงในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสอบสวนเรื่องเก้งเผือกหายที่สวนสัตว์สงขลา ทางบอร์ดองค์การสวนสัตว์ได้แต่งตั้งนายอภิเดช สิงหเสนี รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเก้งเผือกตัวแรก หายไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดมหาแต่ไม่พบ กระทั่งเดือนเมษายน 2563 พบซากสัตว์เหลือเพียงกระดูก ถูกใบไม้ทับถมในส่วนจัดแสดงเก้งเผือก และเก้งเผือกตัวที่ 2 หายไปจากกรงจัดแสดงเดือนกันยายน 2563 โดยผอ.สวนสัตว์สงขลา ชี้แจงว่ามีงูเหลือมกินไป
โดยการสอบสวนเก้งเผือกที่หายไป จะเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงในตัวแรก เนื่องจากมีการระดมหาแต่ไม่พบ จากนั้นถัดมาอีก 2 เดือน กลับพบเป็นซากกระดูกแล้ว
สำหรับเก้งเผือกมีขนาดลำตัวเท่ากับเก้งธรรมดา สีขาวปลอดทั้งตัว มีตาสีแดง จมูกสีชมพู มีต่อมน้ำตาขนาดใหญ่ และแอ่งน้ำตาลึก มีเขาขนาดเล็ก และสั้น ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร และมีแขนงเล็กๆ แตกออกข้าง ละสองกิ่ง มีเขี้ยวยาวยื่นออกมานอกริมฝีปากเพื่อป้องกันตัว ปกติชอบอยู่ตามลำพังตัวเดียว หากินตอนเย็นถึงเช้าตรู่ นิสัยปราดเปรียว กลางวันหลบนอนตามพุ่มไม้ เวลาตกใจจะส่งเสียงร้องคล้ายเสียงสุนัขเห่า ในประเทศไทยพบทุกภาค อินโดจีน อินโดนีเซีย จีนตอนใต้ ศรีลังกา อินเดีย เริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุประมาณ 1 ปีครึ่ง ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงฤดูหนาว ตั้งท้องนาน 6 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว อายุเฉลี่ย 15 ปี กินอาหารประเภทหญ้า ใบไม้ ผลไม้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่าน : ด่วน! ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ ถูก จนท.ยิงเสียชีวิต ขณะลงพื้นที่สงขลา
อ่าน : ด่วน! สัตวแพทย์ มือปืนยิง ผอ.องค์การสวนสัตว์ดับ ยิงตัวตาย เสียชีวิตในบ้านพัก
อ่าน : เปิดปม เหตุจ่อยิง ‘ผอ.องค์การสวนสัตว์’
อ่าน : พบ กระสุนปืน 9 มม. 17 ปลอก ตกที่เกิดเหตุ เพื่อนแห่อาลัย เผยเป็น “เพื่อน-ผู้นำ-เจ้านาย” ที่ดี
