คืบหน้า ช่วย ช้างป่าป่วย ลูกช้างดุ ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้แม่ สัตวแพทย์ทุ่มสุดตัวเฝ้าอาการทั้งคืน
วันที่ 1 มีนาคม สัตวแพทย์หญิง(สพ.ญ.) ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ.2) (ศรีราชา)กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า หัวหน้าฝ่ายวิชาการและคุ้มครองสัตว์ป่า ทีมสัตวแพทย์ สบอ.2 (ศรีราชา) ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน คณะเจ้าหน้าที่ไฟป่าเขาสิบห้าชั้น คณะเจ้าหน้าที่ปกครอง ผู้นำชุมชนในพื้นที่ คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ อาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่า กลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ป่า ได้เข้าพื้นที่ สวนยาง ม.9 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เพื่อทำการรักษาช้างป่า เพศเมีย อายุประมาณ 20 ปี ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ อ่อนเพลียมาก และผอมมาก โดยพบช้างป่าวัยเด็ก (ลูกช้างป่า) สูงประมาณ 150-160 ซม. อายุประมาณ 2-3 ปี (หย่านมแล้ว) เฝ้าอย่างใกล้ชิด วิ่งไล่ ทำให้คณะเจ้าหน้าที่ฯ ไม่สามารถเข้าใกล้ตัวช้างป่าป่วยตัวดังกล่าวได้
สพ.ญ. ณฐนน กล่าวว่า ทีมสัตวแพทย์ ได้ทำการวางยาซึมลูกช้างป่า เพื่อแยกออกจากช้างป่าป่วย ซึ่งลูกช้างป่าได้ฟื้นจากยาซึมเป็นที่เรียบร้อยจากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้ทำคอกเพื่อให้ฝูงช้างป่ามารับแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากลูกช้างป่าได้พังคอกออก เจ้าหน้าที่ ติดตามลูกช้างป่า พบว่าลูกช้างป่าเดินทางไปยังแปลงปลูกป่าบ่อมะเดื่อ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน เพื่อรอเข้าฝูงช้างป่าต่อไป
สำหรับการรักษาช้างป่าป่วย แบบพยุงอาการ สัตวแพทย์ได้ให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำ เข้าใต้ผิวหนัง และทำการให้ยารักษา สารละลายกลูโคส พร้อมทั้งวิตามินบำรุง ทำการเจาะเก็บเลือดช้างป่าป่วย และช้างป่าวัยเด็ก เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และได้ทำการใช้รถแมคโครตักดินไว้พยุงรอบลำตัวและดันตัวช้างป่าเพื่อให้ช้างป่าลุกขึ้นโดยมีรถแมคโครช่วยพยุง แต่ช้างป่ายังไม่มีแรงลุกขึ้นทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล และคณะเจ้าหน้าที่ทำการเฝ้าดูแลช้างป่าป่วยตัวดังกล่าวตลอดทั้งคืนโดยในวันนี้หากช้างป่าป่วยยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ จะทำการพิจารณาใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวช้างแบบเหล็กถอดประกอบ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวานพัทยา
ขอบคุณคลิปจาก เฟชบุ๊ก ประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช