ปลัด พม.คาดผลสอบ ‘รองอธิบดีกรมเด็ก’ ออกศุกร์นี้ ยันไม่ช่วยเหลือกันเอง ไม่งั้นคงไม่แจ้ง ตร.
กรณี เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันให้ความช่วยเหลือผู้กระทำผิด ในคดีซื้อบริการทางเพศเยาวชนหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี พื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั้น
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริง รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงกับบุคคลทั้ง 3 แล้ว แบ่งเป็นผู้ถูกร้องเรียน 2 คนคือ รองอธิบดี ดย. เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ และผู้ร้องเรียน 1 คนคือ หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ แต่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเข้ามา
ขณะที่วันนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีรองปลัด พม.เป็นประธาน ได้ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบพยานแวดล้อมทั้งหมด ก็คาดว่าหากประเด็นเคลียร์ก็น่าจะจบได้เลย หรือหากไม่เคลียร์ คือมีประเด็นสงสัยเพิ่มเติม ต้องเรียกสอบเพิ่ม ก็คาดว่าจะสามารถรายงานผลสอบเบื้องต้นมาที่ตนอย่างช้าภายในวันศุกร์ 13 พฤษภาคมนี้
ถามถึงข้อห่วงใยของสังคมว่าการสอบครั้งนี้อาจมีการช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะรองอธิบดี ดย. นางพัชรีกล่าวว่า ยืนยันว่าจะไม่มีเรื่องดังกล่าว หากเห็นประวัติตนมาตั้งแต่ต้น เป็นคนทำงานจริงจัง ไม่มีพวกพ้อง ขึ้นมาได้ด้วยการทำงาน ฉะนั้นจะใช้การทำงานพิสูจน์ตัวตน แม้จะเกษียณอายุราชการในอีก 5 เดือน ก็จะทุ่มเททำงานพิสูจน์ตัวตน
ถามถึงความคืบหน้าของคณะทำงานช่วยเหลือและแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ ที่ รมว.พม.ได้ลงนามแต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ปลัด พม.กล่าวว่า คณะทำงานได้หยิบยกกรณีค้าประเวณี จ.สุราษฎร์ธานี มาถอดบทเรียน ตั้งแต่การวิเคราะห์ระบบการช่วยเหลือผู้เสียหาย ตั้งแต่การแจ้งขอความช่วยเหลือ ทีมสหวิชาชีพลงไปช่วยเหลือ คัดแยกผู้เสียหาย กระบวนการส่งต่อ การดูแลของศูนย์คุ้มครอง การสอบปากคำ ตลอดจนการดูแลและสนับสนุนผู้เสียหายให้ต่อสู้ในคดี มันติดขัดหรือบกพร่องตรงไหน รวมถึงทำไมเด็กถึงถูกล่อลวงไปค้าประเวณี เพื่อจะให้มีนโยบายหรือกลไกป้องกันเด็กไม่ให้ถูกล่อลวง ซึ่งจะถอดบทเรียนให้ครบทั้ง 4 ภาค ภายในเวลา 1 เดือน
“ตั้งใจที่จะทำงานให้เห็นว่า พม.มีความมุ่งมั่นทำงานแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง เพราะเราเป็นหน่วยนโยบายดูแลเรื่องนี้อยู่ ดูว่ามีส่วนไหนที่เป็นจุดอ่อนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ได้ เราไม่โทษสังคมที่มองเรา แต่เป็นโอกาสที่ทำให้ พม.ทบทวนกระบวนงานทั้งหมด” นางพัชรีกล่าว และฝากว่า
อย่างไรก็ตาม ฝากสังคมอ่านข่าวให้ละเอียด คดีนี้เด็กไม่ได้อยู่ที่หน่วยงาน พม.แล้วเอาไปค้าประเวณี แต่คือ พม.ได้รับแจ้งจากโรงแรมแห่งหนึ่งว่ามีเด็กถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว เราจึงไปแจ้งตำรวจเพื่อช่วยเด็กคนนั้นออกมา ต่อมามีการสืบเสาะต่อจนพบผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน ฉะนั้นถ้าเราคิดว่าจะช่วยปิดบังคดี เราคงจะไม่ไปชี้ เช่นเดียวกันผู้บริหารของเรา ไม่ได้ไปซื้อบริการทางเพศเด็ก แต่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกลี้ยกล่อมให้หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ ไม่สืบค้นคดีต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บิ๊กโจ๊ก ฟันรองอธิบดี ดย. โทรสั่งให้กล่อมเหยื่อค้ามนุษย์ ช่วยผู้ต้องหาซื้อบริการเด็ก
- ปลัด พม. สั่งกรมเด็กฯ รายงานข้อเท็จจริงด่วน หลังตำรวจพบรองอธิบดีพัวพันคดีค้ากามเด็ก จ.สุราษฎร์ฯ
- จุติ ปัดอยู่เบื้องหลังปม ‘รองอธิบดีกรมเด็ก’ พัวพันคดีค้ามนุษย์ แง้ม จนท.ตีเด็กจริง แต่ลงโทษทางวินัยทั่วไป