ศศิน-มูลนิธิสืบฯยกย่อง “สมปอง ทองสีเข้ม” ชู ขรก.โนเนม ผู้เป็นคุณูปการป่า

ศศิน-มูลนิธิสืบฯยกย่อง “สมปอง ทองสีเข้ม” ชู ขรก.โนเนม ผู้เป็นคุณูปการป่า

นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เขียนถึง นายสมปอง ทองสีเข้ม อดีตผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่เกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา

 

เขียนถึง ผอ.#สมปอง #ทองสีเข้ม เกษียณอายุ 30 ก.ย.65
…..
กินเหล้าแม่โขงเก่าขวดนี้หลายเดือนแล้ว เป็นเหล้าที่ซื้อมาจากร้านแถวนี้ วันที่บอกไว้ 24-09-44 ตั้งใจเก็บไว้เปิดในโอกาสสำคัญ หลายเดือนที่แล้วพี่ปองโดนคำสั่งย้ายจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปเป็น ทสจ. หรือ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี สลับเอา ทสจ.ปราจีนมานั่ง ผอ.สัตว์ป่า แทน หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงอธิบดีก็ย้ายคนทำงานบริหารเดิมๆยกแผงตามคาด

พี่ปองมาเยี่ยม ผมเลยถือโอกาสเปิดขวดอายุเกินยี่สิบปีออกมาดื่ม เพื่อเป็นโอกาสพิเศษ
#แต่คงไม่ใช่การฉลองตำแหน่งใหม่ แต่เป็นนัยยะการ #อำลางานอนุรักษ์จริงๆ ที่เราทำงานด้วยกันมา

Advertisement

หลายเดือนที่แล้วพี่สมปอง ทองสีเข้ม ถ้าพูดถึงในวันนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นข้าราชการเกษียณวันแรก ผมตั้งใจจะเก็บขวดนี้ไว้เป็นที่ระลึกเพื่อเขียนอะไรถึงพี่ปองในวันพ้นจากความเป็นราชการก่อน

ผมรู้จักพี่ปองตั้งแต่ปี 49 ได้ข่าวว่ามีมือปราบป่าไม้จากพิษณุโลกจะย้ายมาเป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าทุ่งใหญ่ตะวันออก อุ้มผางโน่น ที่เรากำลังทำโครงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านกลางป่าลึกที่เข้าถึงยากที่สุดทั้งการเดินทาง และวิถีชีวิตที่เป็นกะเหรี่ยงดั้งเดิมนับถือฤๅษี แถมทั่งหมดเป็นเขตงานจัดตั้งคอมมิวนิสต์ที่แม้แต่ตอนนั้นเขาก็ยังมีอารมณ์จัดตั้งกันอยู่

ผมกับหัวหน้าคนเก่าทำงานกันมาสองปีเริ่มคุยกันได้แล้ว เกรงว่าหัวหน้ามือปราบจากพิษณุโลกอาจจะมาสร้างความขัดแย้งใหญ่ขึ้นใหม่ และโครงการเราคงล่มหากหัวหน้าสมปองเข้ามาแบบจับแหลก ตามคำร่ำลือ

Advertisement

เรานัดกินข้าวกันก่อนที่กรุงเทพเพื่อทำความรู้จักกัน อ.รตยา บอย และ ผม นัดกับพี่ปองผ่านเพื่อน วน.47 อย่างพี่สมโภชน์ มณีรัตน์ที่บริหารโครงการในฝ่ายกรมฯอยู่

ผมจำได้ว่าเราเล่างานต่างๆให้พี่ปองฟังแกตั้งใจรับฟัง แต่ไม่รับปากอะไร แต่ดูเหมือนว่าแกจะเข้าใจสภาพปัญหาแต่ไงก็ขอเข้าไปดูพื้นที่และผู้คนก่อน

ผ่านมาสองปี แนวเขตชุมชนที่เราอยากได้ก็เสร็จเรียบร้อยก่อนพื้นที่อื่นๆ เพราะพี่ปองแทบไม่ให้เราไปยุ่งมาก แกบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ควรทำจึงให้พนักงานเจ้าหน้าที่มาช่วยกันทำงานนี้เอง

พี่ปองบอกเสมอว่าชาวบ้านจะเป็นเชื้อชาติอะไรอยู่ประเทศไทยก็ต้องอยู่กับกฎหมายไทย แต่การใช้กฎหมายต้องมีคุณธรรม ก่อนจะใช้กฏหมายต้องพูดคุยตกลงกันให้ชัดว่าจะอยู่กันด้วยดติกาอย่างไร และจะร่วมกันดูแลพื้นที่ตามข้อตกลงร่วมกันอย่างไร

พี่ปองสอนผมมากมาย แต่ที่จำได้แม่นๆ คือหลักการป้องกันและปราบปราม ตอนแกเป็นมือปราบ งานแกคือวิ่ง #ปราบปรามผู้กระทำผิด แต่เมื่อมาอยู่ประจำพื้นที่เราต้องทำงาน #ป้องกัน ไม่ให้เกิดการทำผิดไม่งั้นเจ้าหน้าที่ก็อยู่อย่างไม่มีความสุข ชาวบ้านก็เกลียด และเกิดข้อขัดแย้งกันตลอดเวลา

ส่วนงานสำรวจแนวเขตที่เรากับกรมอุทยานฯทำงานโครงการกันมาแต่พบอุปสรรค์ปัญหามากมายเนื่งจากไม่มีข้อกฏหมายใดๆขณะนั่นอนุญาตให้เจ้าหน้าที่หรือใครๆเข้าไปทำได้ยกเว้นเจ้าหน้าที่จากสำนักนี้โดยเฉพาะ (ชื่อสำนักฟื้นฟูฯ) ตั้งงบมาทำตามมติ ครม.ที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่มีแววว่าจะเสร็จ ยิ่งทั่วประเทศยิ่งหมดหวัง โครงการเรากำหนดให้ทำเรื่องนี้ หัวหน้าพื้นที่อื่นๆก็แบ่งรับแบ่งสู้ ให้มูลนิธิสืบไปออกหน้าและส่งเจ้าหน้าที่ที่กล้าๆ ชอบทำงานชาวบ้านไปช่วยนิดๆหน่อยๆ

แต่พี่ปองไม่อย่างนั้น หลังจากบ่นว่าเราชอบทำอะไรไม่ลายลักษณ์อักษร แกก็ช่วยเราคิดแก้ปัญหา บอกให้เราเขียนโครงการซ้อนอ้างมติ ครม.ให้ชาวบ้านอยู่ระหว่างยังไม่พิสูจน์สิทธิ ไงๆก็ต้องให้อยู่ย้ายเขาออกก็ไม่ได้ ระหว่างนี้ก็ควรควบคุมโดยมิให้ขยายไปก่อน โดยใช้โครงการของเราแต่อ้างกฏหมายของรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามาตราครอบจักรวาลมาตรา 38 วรรค 2 ที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการใดเพื่อการอนุรักษ์ได้ถ้าอธิบดีอนุมัติ การสำรวจหมายแนวเขตชุมชนนี่คือการอนุรักษ์ป่าไม่ให้ชาวบ้านถางเพิ่ม ดังนั้นงานของเราคือทำเอกสารเสนออธิบดีอนุมัติให้เขตทุ่งใหญ่ดำเนินงานโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนมูลนิธิสืบก็เป็นองค์กรสนับสนุน

สูตรนี้ของพี่ปองแก้ปัญหาที่ไม่เคยมีใครทะลุไปได้สำเร็จผมประสานกรมให้พื้นที่อื่นในผืนป่าทำงานนี้จนสำเร็จทุกหมู่บ้าน แต่สู้ทุ่งใหญ่ไม่ได้เพราะพี่ปองเอาเจ้าหน้าที่ทั้งเขตมาช่วยทำ ส่วนเราแค่สนับสนุน ที่อื่นๆ เป็นการทำเฉพาะพื้นที่ชุมชนที่หน่วยใกล้ๆมาร่วม

ระหว่างทำงานเราได้ทุนเพิ่มพิเศษจากการจัดกิจกรรมอนุรักษ์มานิดหน่อย อ.รตยาเสนอให้พี่ปองทำจุดสกัดในเส้นทางที่ล่อแหลมต่อการที่มีคนข้างนอกเข้าไปทำผิด ในงบที่เรามีให้แสนบาท ไม่กี่เดือนพี่ปองชวนเราไปร่วมทำบุญเป็นหน่วยป่าไม้ชั่วคราวที่สร้างจากไม้ไผ่ มีทั้งโรงอาหารและห้องพักหลายหลังพรั่งพร้อม ทีสำคัญคือชาวบ้านหมู่บ้านยูไนท์ แถวนั้นที่มาช่วยโดยไม่ต้องจ้าง เพราะคุยกันถูกใจ สำรวจที่ทำกินให้เขา และมีจุดสกัดป่าไม้เขาอุ่นใจขึ้น และจะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าล่าสัตว์ตัดไม้ เพราะเมื่อก่อนส่วนใหญ่มีคนข้างนอกเข้ามาบ่อยๆ ชาวบ้านมาทำพิธีแบบท้องถิ่นกะเหรี่ยงปากะญอน่าประทับใจ คิดไม่ถึงว่าอดีตมือปราบจะได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านอดีตคอมมิวนิสต์ได้ขนาดนี้

พี่ปองดึงผู้นำชุมชนอดีตคอมมิวนิสต์เก่าๆมาเป็นเจ้าหน้าที่หลายคน ทำให้การทำงานดูราบรื่นไปเสียทุกอย่างทีเดียว

ระหว่างนั้นสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่ามีโครงการขยายวิธีการลาดตระเวนเชิงคุณภาพที่ทำอยู่เฉพาะห้วยขาแข้ง มายังพื้นที่ติดกันที่เป็นมรดกโลกทุ่งใหญ่ที่นี่ พี่ปองเป็นเพื่อน ดร.อนรรฆ ผอ.สมาคม จึงรับทำทันทีไม่นานข้อมูลลาดตระเวนและสัตว์ป่าทุ่งใหญต่อห้วยขาแข้งก็สำเร็จ

และดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่จะทำงานกันอย่างเข้มข้นมาก มีการตรวจพบการวางยาเบื่อเสือโคร่ง ก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดดำเนินคดีได้ เจ้าหน้าที่ห้วยขาแข้งปะทะกับพรานชุดล่าเสือเข้ามายังทุ่งใหญ่พี่ปองก็นำกำลังไปสกัดจับได้ มีข่าวพรานล่าเสือแอบมากบดานในรีสอร์ตแถวอุ้มผาง มือปราบสมปองก็ตามจับกุมได้ทุกครั้ง

พี่ปองอยู่ทุ่งใหญ่ถึงสิบเอ็ดปี สร้างผลงานมากมาย เป็นพื้นที่ทำประสพความสำเร็จและร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียรพัฒนาเอกสร้างตัวแบบการป้องกันรักษาป่า ให้เราใช้เป็นแม่แบบการทำงานร่วมกับพื้นที่อื่นๆ

พี่ปองได้เลื่อนไปเป็น ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่จังหวัดตากและดูแลพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆเชิงนโยบาย ขณะนั้นมีปัญหารการขยายพื้นที่ชุมชนที่บ้านกิ่วสามล้อ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น พี่ปองจึงขอให้หัวหน้าสำรวจแนวเขตร่วมกับชาวบ้านม้งเหมือนที่เคยทำที่ทุ่งใหญ่จนสำเร็จ ทำให้ไม่มีการบุกรุกเพิ่ม

ไม่นานอธิบดีธัญญา เพื่อนร่วมรุ่นของพี่ปองขึ้นเป็นอธิบดี แกดึงเพื่อนมือดีเข้าไปช่วยงานกรุงเทพ เป็นผู้อำนวยการส่วนจัดการพื้นที่ ในสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าส่วนกลาง อธิบดีอยากทำงานแก้ไขปัญหาชุมชนให้แล้วเสร็จให้ได้ ในช่วงนั้นมีรัฐมนตรีสมัยประยุทธ์ 1 ชื่อพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ก็มุ่งมั่นจะแก้ปัญหาให้ได้
ในสมัยนี้

ผมแนะนำอธิบดีว่าขอให้ พี่ปอง ซึ่งเป็นแค่ ผอ.เล็กๆซีแปด ไปนำเสนอวิธีการที่เราเคยทำด้วยกันให้ รมต.บิ๊กเต่าฟังก่อน อธิบดีธัญญาก็ตกลง

ผมนัดบิ๊กเต่าขอพบพร้อม ผอ.สมปอง คุยกันวงเล็กไม่เป็นทางการ พี่ปองหอบแฟ้มและแผนที่กิ่วสามล้อไปอธิบาย รมต.สุรศักดิ์ก็เห็นแนวทาง สำเร็จได้จึงมอบให้กรมเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาโดยการสำรวจแบบนี้ทั่วประเทศ

พี่ปองได้เลื่อนซีและตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการกรม จึงมีเวลามาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในคณะทำงานโครงการสำรวจแนวเขตทั่วประเทศสี่พันกว่าชุมชนโดยให้เจ้าหน้าที่เกือบสามร้อยแห่งช่วยกันทำงานจนสำเร็จในเวลาสองปี ระหว่างนั้นพี่ปองก็ขยับมาเป็นผู้อำนวยการสำนักต้นน้ำ

นอกงานสำนักสัตว์ป่ามากมาย งานชุมชน และงานบริหารอื่นๆ พี่ปองยังต้องรับภาระพัฒนาศูนย์ลาดตระเวนเชิงคุณภาพที่อธิบดีธัญญาชอบใจว่าเป็นแนวทางป้องกันทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่าที่มีประสิทธิภาพที่สุด และ ดร.อนรรฆผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ก็ยืนยันว่าต้องเป็นพี่ปองเท่านั้นจึงจะสำเร็จ

ในปี 2562 มีการออกกฏหมายอุทยานฯ และสงวนคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับใหม่มีสาระสำคัญคือมีมาตราให้คนชุมชนสำรวจแนวเขตตามกฏหมายได้

ซึ่งก็คืองานที่พี่ปองขับเคลื่อนมากับเราและเป็นต้นแบบการทำงานตามกฏหมายใหม่นั่นเองว่าทำได้จริง

ส่วนศูนย์ข้อมูลลาดตระเวนก็ขยายผลสำเร็จไปในทุกพื้นที่อนุรักษ์ทั้งประเทศ

และพี่ปองก็มาเป็นผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าเกือบสองปี มีผลงานปรับปรุงงานบริหารจัดการสัตว์ป่าแก้ไขปัญหามากมาย รวมถึงตามคดีเสือดำจนสิ้นสุดคดี ก่อนที่จะโดนย้ายไปทำงานที่แทบไม่มีความสำคัญอะไรมากที่ปราจีนบุรี ตามธรรมเนียมการเปลี่ยนผู้บริหารที่นี่
……
พี่สมปอง ทองสีเข้ม สำหรับผมแล้ว แกเป็นข้าราชการโนเนม ที่มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงเรื่องใหญ่ๆ ที่ไม่เคยมียุคไหนทำสำเร็จ เป็นคีย์แมนในการแก้ปัญหาชุมชนในป่า และการลาดตระเวนเชิงคุณภาพให้ประเทศไทย
….
ระหว่างดื่มสุราเก่าเก็บ … ผมจำได้ว่าพี่ปองบอกว่างานที่ทำมามากมายไม่ต้องให้ใครมาทำประวัติยกย่อง … เพราะมันก็ไม่เห็นสำเร็จ งานชุมชนในป่าก็ยังอยู่ระหว่างออกกฎหมายลูกและดูเหมือนว่าจะยื้อไปอีกนาน งานข้อมูลลาดตระเวนพอเปลี่ยนผู้บริหารก็น่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ไม่มีใครตามเดี๋ยวก็อาจจะล่มไป

มาอยู่ ทสจ. ก็ไม่มีงานสำคัญเหมือนที่เคยทำมาในช่วงนี้ อีกไม่กี่เดือนก็เกษียณ แต่ก็ช่วยให้ข้อมูลสู้กับโครงการเขื่อนรอบเขาใหญ่ไปพอสมควร..
…..
ผมเก็บขวดแม่โขงเก่าเก็บนี้ไว้เพื่อระลึกถึงงานสิบกว่าปีที่ทำงานกับพี่สมปอง ข้าราชการกรมอุทยานฯ ที่เก่งและมีส่วนเปลี่ยนแปลงงานอนุรักษ์ป่าของบ้านเราอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดคนหนึ่ง

แม้สีเหล้าเก่าจะจาง แต่การพูดคุยของเราที่ระลึกถึงการทำงานของพี่มันเข้มข้น เหมือนนามสกุล #ทองสีเข้ม ของพี่จริงๆ
….
ขอให้พี่ปอง ได้พักผ่อน สุขภาพกายใจแข็งแรง มีความหลังที่ภาคภูมิใจว่าในชีวิตราชการหลายสิบปีของพี่มันเจ๋งสุดๆแล้วครับ แม้ไม่มีใครเห็นเท่าที่ควรจะได้รับรู้ เหมือนที่เรารู้

แต่พวกเราพี่น้องมูลนิธิสืบฯที่ทำงานกับพี่มาจะจดจำได้ตลอดไป

ศศิน เฉลิมลาภ
1 ตุลาคม 65

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image