สธ. ชู “อภัยภูเบศร” สร้างอาชีพ ด้วยศาสตร์แผนไทย-สมุนไพร ตามนโยบาย Health for Wealth

ปลัดสธ. ชู “รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทยและสมุนไพร ดูแลสุขภาพประชาชน “สร้างงาน สร้างอาชีพ พึ่งพาตนเอง” ตามนโยบาย Health for Wealth เผยปี 2565 มีรายได้จากบริการแผนไทยกว่า 40 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข คือ Health for Wealth นำเรื่องของสุขภาพโดยเฉพาะการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย มาใช้ขับเคลื่อนสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ โดยโรงพยาบาล (รพ.) เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็น รพ.ศูนย์ที่มีความโดดเด่นด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร มีการพัฒนาและยกระดับงานด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร 3 ประเด็น คือ 1.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness ผ่านกิจกรรมและบริการของ “อภัยภูเบศร เดย์ สปา” และ “ภูมิภูเบศร” 2.การผลิตยาและสมุนไพรไทยสู่สากล โดยโรงงานผลิตยาสมุนไพรและมูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์กับเกษตรกรในประเทศ และ 3.การใช้นวัตกรรมสุขภาพและการส่งออก โดยการอบรมความรู้เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน และการวิจัยพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรและบริการ โดยทั้ง 3 ประเด็น มีการฝึกอบรมภายใต้แนวคิด “สร้างงาน สร้างอาชีพ พึ่งพาตนเอง”

“ในปีงบประมาณ 2565 รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีผลงานเชิงบวกจากการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โดยมีรายได้รวมจากการให้บริการแผนไทย 40 ล้านบาท ส่วนมูลนิธิฯ มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร 600 ล้านบาท มีการสั่งซื้อสมุนไพรจาก 8 กลุ่มเกษตรกร 2.4 แสนบาท จาก 11 กลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ 32.6 ล้านบาท มีผู้ผ่านการอบรมพัฒนาสู่ผู้ประกอบการ 70 คน และเกิดการจ้างงานด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยใน จ.ปราจีนบุรี 375 คน” นพ.โอภาส กล่าว

ด้าน ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า รพ.มุ่งเน้นการดูแลแบบองค์รวมโดยใช้หลักของ 3 สมดุลสุขภาพ คือ เจ้าเรือน โครงสร้าง และระบบขับถ่าย โดยงานการแพทย์แผนไทยจะให้การดูแลในเชิงป้องกัน รักษา ฟื้นฟู และส่งเสริมสุขภาพอย่างครอบคลุมเป็นองค์รวม ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการใช้สมุนไพร ส่วนการตรวจรักษา จะมีหัตถการทางการแพทย์แผนไทยและคลินิกหัตถเวชศาสตร์ที่มุ่งเน้นการให้บริการรักษาเฉพาะโรคอย่างตรงจุด ผ่านหัตถการที่หลากหลาย เช่น การเผายา พอกยา กักน้ำมัน เป็นต้น สำหรับบริการส่งเสริมสุขภาพ มีการพัฒนาเพื่อรองรับกับสถานการณ์สุขภาพปัจจุบันและกระแสสุขภาพ เช่น การดูแลหลังติดเชื้อโควิดด้วยการใช้หัตถการทางการแพทย์แผนไทยและการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบ, โปรแกรม Deep Sleep ปรับสมดุลการนอนให้มีคุณภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีองค์ความรู้และยาสมุนไพร, โปรแกรมการดูแลมารดาหลังคลอด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพมารดาให้กลับมาเป็นปกติพร้อมดูแลบุตร

Advertisement

นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับสถาบันต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ Health & Wellness Tourism การอบรมเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรภาคประชาชนเพื่อการพึ่งตนเอง เช่น เรื่องอาหารเป็นยา โคกหนองนา “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศ” ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพืชสมุนไพรกินได้กว่า 500 ชนิด ถือเป็นโมเดลความยั่งยืนทางธรรมชาติ เพื่อความมั่นคงทางยา อาหารและสุขภาพ โดยนำเสนอเป็นเมนูอาหารที่ดูแลระบบท้องไส้ ได้แก่ 1.ข้าวไรซ์เบอร์รี อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีเส้นใยสูง จึงช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2.ทอดมันใบบัวอ่อน ซึ่งใบบัวอ่อนมีสารที่มีคุณสมบัติทำให้หลับสบาย คลายเครียด คนปราจีนบุรีนิยมรับประทานเป็นผักสด ผักจิ้มน้ำพริก ใส่แกงคั่ว เมื่อนำมาผสมกับทอดมันจะช่วยลดความขม ทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น

3.ยำผักเป็ดแดงไก่ฉีก โดยต้นผักเป็ดแดง มีสรรพคุณฟอกและบำรุงโลหิต ในศรีลังกาใช้ต้มเป็นยาแก้ไข้และเป็นอาหารบำรุงของแม่ลูกอ่อน 4.ห่อหมกใบยอ โดยใบยออ่อนมีรสขมเล็กน้อย ช่วยลดความร้อนในร่างกายและมีแคลเซียมสูง 5.แกงส้มผักรวม เป็นเมนูไขมันต่ำ ใยอาหารสูง ดีต่อระบบขับถ่าย รสเผ็ดร้อนจากเครื่องแกงช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย และ 6.เฉาก๊วย แปะก๊วย รากบัว โดยรากบัวมีรสหวาน มีฤทธิ์เย็น ช่วยบรรเทาอาการร้อนในและกระหายน้ำ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image