‘ฝุ่นแดง-ฝุ่นเหล็ก’ คืออะไร? ถ้าโดนรังสี ‘ซีเซียม-137’ จะเป็นยังไง? สธ.ยันอยู่ที่ความเข้มข้น-ระยะเวลาสัมผัส
แม้ “ผู้ว่าฯปราจีนบุรี” พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงยืนยันช่วงสายวันที่ 20 มีนาคม ถึงการพบ วัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137” ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าใน จ.ปราจีนบุรี แล้ว เบื้องต้นพบสาร “ซีเซียม-137” ที่ผสมอยู่ใน “ฝุ่นเหล็ก” หรือ “ฝุ่นแดง” ที่ระเหยจากการหลอม และอยู่ในระบบปิด เบื้องต้นไม่มีการรั่วไหลออกไปภายนอก
ทั้งนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบว่าเป็น “ซีเซียม-137” ที่ทุกฝ่ายตามหากันหรือไม่ เนื่องจากการค้นพบอยู่ใกล้เคียงกับจุดสูญหาย และสาร “ซีเซียม-137” ที่พบ มิได้เกิดจากธรรมชาติ
เปิดความหมาย ‘ฝุ่นเหล็ก-ฝุ่นแดง’
“มติชนออนไลน์” พาไปทำความรู้จัก “ฝุ่นเหล็ก” หรือ “ฝุ่นแดง” โดยอ้างอิง รายงานเทคโนโลยีการรีไซเคิลฝุ่นเหล็ก โครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการนําวัสดุเหลือใช้และกากของเสียมาใช้ประโยชน์ ของ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ที่อธิบาย “ฝุ่นเหล็ก” ว่าเป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่งจากการหลอมรีไซเคิลเศษเหล็กด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า ฝุ่นเหล็กประกอบด้วยโลหะเจือปนหลักที่สามารถนํากลับมาได้ ได้แก่ สังกะสีและเหล็ก โลหะทั้งสองชนิดจับตัวในรูปของสารประกอบซิงค์เฟอร์ไรท์
นอกจากนี้ ยังมีโลหะหนักอื่นๆ เจือปนอยู่อีกด้วย อาทิ ตะกั่ว แคดเมียม นิกเกิล และโครเมียม เป็นต้น ซึ่งได้จากการหลอมรีไซเคิลเหล็กกล้าไร้สนิมและเหล็กเครื่องมือ รวมทั้งเศษเหล็กใช้แล้วต่างๆ
“ฝุ่นเหล็ก” จัดอยู่ในกลุ่ม กากของเสียอันตราย K061 เพราะมีโลหะหนักเจือปนอยู่มากกว่าที่มาตรฐานกําหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตะกั่ว กรรมวิธีการสกัดนําเอาโลหะออกจากฝุ่นเหล็กแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.การใช้ความร้อน (Pyrometallurgy) และ 2.การใช้ตัวทําละลาย (Hydrometallurgy)
เช่นเดียวกับเอกสารของ น.ส.วารี ลิ้มพัฒนสกุล เรื่อง การศึกษาความเป็นไปได้ในการนำฝุ่นแดงจากเตาหลอมเหล็กไฟฟ้าประยุกต์ใช้แทนแม่สีในสีรองพื้นกันสนิม ทั้งนี้ วิชาการค้นคว้าอิสระเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการสิ่งแวดล้อม) คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ.2555
น.ส.วารีระบุในบทคัดย่อว่า “ฝุ่นแดง” เป็นกากของเสียที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็กในเตาหลอมไฟฟ้า EAF ตามรหัสของเสียอันตราย K061 ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ เพราะมีโลหะหนักเป็นส่วนประกอบ จำพวกเหล็กออกไซด์และสังกะสีออกไซด์
ปัจจุบันฝุ่นแดงถูกจัดการโดยส่งเผา ฝังกลบ และนำไปถมที่ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่ฝุ่นแดงมีธาตุองค์ประกอบของเหล็กและสังกะสีที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐศาสตร์ได้
สธ.เผยความรุนแรงรับรังสี ‘ซีเซียม-137’
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ให้ข้อมูลว่า ความรุนแรงจากการรับรังสี “ซีเซียม-137” ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น ระยะเวลาที่สัมผัส และระยะห่างในการสัมผัส หากสัมผัสโดยตรงจะเกิดการบาดแผลไหม้จากรังสี เช่น ผิวหนังมีตุ่มน้ำพอง เป็นแผล หรือเนื้อตายได้ เกิดอาการทั่วไป เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ
ส่วนผลระยะกลางและระยะยาว จะส่งผลต่อเซลล์ที่มีการแบ่งตัว เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือเส้นผม
เบื้องต้น ได้มอบหมายให้กองสาธารณสุขฉุกเฉินประสานผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยจากกัมมันตรังสีจัดทำแนวทางการเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุกและแจ้ง สสจ.ทั่วประเทศดำเนินการ พร้อมประสานจัดสิ่งสนับสนุน เช่น เครื่องตรวจวัดรังสีเพิ่มเติม ชุดป้องกัน หน้ากากอนามัยชนิดกันอนุภาค รวมทั้งให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพประสานคลินิกเอกชนทั่วประเทศ ร่วมเฝ้าระวังผู้ป่วยที่สงสัยอาจเกิดจากการได้รับรังสีด้วย
ผู้เชี่ยวชาญเผย ‘ความอันตราย’
หากฝุ่นขนาดเล็กซีเซียม-137 กระจายสู่บรรยากาศ
ขณะที่ สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้ความรู้กรณี “ซีเซียม-137” ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถ้าแท่งโลหะที่บรรจุซีเซียม-137 ถูกหลอมรวมกับเศษเหล็กในโรงงานหลอมเหล็กแล้ว ผลกระทบที่ตามมาคือ
ฝุ่นขนาดเล็กของซีเซียม-137 ที่ปล่อยออกมาจากปลายปล่องจะกระจายสู่บรรยากาศและตกลงสู่แหล่งน้ำ ดินที่อยู่รอบๆ โรงงาน และเกิดการปนเปื้อนเข้าสู่วงจรอาหาร ได้แก่ ผัก ผลไม้ อาหารจากแหล่งน้ำใกล้เคียงและอาหารแปรรูปจากวัตถุดิบทางการเกษตร เป็นต้น รวมทั้งอาจมีบางส่วนที่ประชาชนหายใจเข้าไปด้วย
สารนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายบางส่วนจะถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อและปัสสาวะ บางส่วนจะตกค้างและสะสมในกล้ามเนื้อ, ตับ, ไขกระดูก หากได้รับในปริมาณมาก หรือเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความผิดปกติในระดับโครโมโซม คือเป็น “มะเร็ง” นั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ว่าฯ ปราจีนฯ ยันพบการปนเปื้อนซีเซียม-137 ในฝุ่นแดง บนพื้นที่จำกัด แต่ถูกควบคุมแล้ว
- สธ.เผยตรวจเบื้องต้น 70 คนงานโรงถลุงเหล็ก ไร้ซีเซียม-137 ในร่างกาย ยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง
- กรมวิทย์ ชี้ เหตุการณ์ซีเซียม-137 ปราจีนฯ กับ ‘เชอร์โนบิล’ ยังต่างกันเยอะ
- กรมโรงงานฯยัน ไม่พบ ‘ซีเซียม-137’ ในโรงรีไซเคิล จ.ระยอง หลังรับฝุ่นแดง 12.4 ตัน
- ผู้ว่าฯระยองสั่งคืน ‘ฝุ่นแดง’ ให้ปราจีนฯใน 3 วัน หลังรับมา 12.4 ตัน คนผวาซีเซียม-137
- เปิดไทม์ไลน์ ‘ซีเซียม-137’ หายในปราจีนบุรี 19 มี.ค.พบแล้ว รังสีไม่กระจายสิ่งแวดล้อม
-
ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ ‘ซีเซียม-137’ ถูกถลุงเป็นฝุ่นแดง ปลิวได้ไกล 1 พันกม. สูดมากทำลาย DNA