เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีชาวบ้านร้องเรียนว่าคลองหลายสายในพื้นที่เขตจอมทอง มีสีผิดปกติและมีกลิ่นเหม็นโชย ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสัตว์น้ำในคลอง ว่า ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการน้ำ
“ทั้งนี้เนื่องจากคลองที่มีปัญหาดังกล่าวเป็นคลองในระบบระบายน้ำ ปกติระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม เป็นช่วงฤดูร้อน และมักไม่มีฝนตกพื้นที่กรุงเทพฯ กทม.กำหนดให้มีแผนนำน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาเจือจางน้ำเสีย แต่เมื่อไม่นานมานี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ จนถึงสิ้นเดือนมกราคม กทม.จึงได้มีแผนพร่องระดับน้ำในคลองให้ต่ำเพื่อรองรับปริมาณฝน และไม่ได้ผันน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามายังพื้นที่ จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้น้ำเปลี่ยนสีและส่งกลิ่น” นายณรงค์กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกตามที่กรมอุตุฯคาดการณ์ กทม.โดยสำนักการระบายน้ำจะเร่งนำน้ำจากแม่น้ำพระยาเข้ามาเพิ่มให้น้ำเสียเจือจางตามแผนเดิม
นายณรงค์กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจคลองเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และอยู่ระหว่างแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวคลองบางขุนเทียน และว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำในคลองเปลี่ยนสี เนื่องจาก กทม.ได้มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งและสัตว์น้ำ ในทะเลบางขุนเทียน ว่า ปกติ กทม.จะผันน้ำเสียออกจากคลองบางขุนเทียน แต่ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม เป็นช่วงที่เกษตรกรจะเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จำพวกกุ้ง หอย ปู ปลา จึงมีข้อตกลงร่วมกัน โดยกำหนดการเปิด-ปิดประตูน้ำตามวันข้างขึ้นข้างแรม หรือน้ำขึ้นน้ำลง เพื่อไม่ให้น้ำเสียส่งผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในช่วงเวลานี้ ดังนั้น เมื่อไม่สามารถผันน้ำเสียได้ครบ 30 วัน จึงทำให้น้ำเสียสะสมอยู่ในคลองปริมาณมาก ประกอบกับไม่สามารถดำเนินตามแผนผันน้ำเจ้าพระยาได้ข้างต้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เร่งแก้ปัญหาคาดว่าภายใน 7 วัน ทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ
