เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 เมษายน พล.ต.อ.ชินทัต มีศุข รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานพิธีปล่อยแถวขบวนรณรงค์ เพื่อปฎิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายนนี้ โดยมี นายยุทธพันธ์ มีชัย ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัด กทม. พ.ต.อ.เทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายธีรพันธ์ อธิรัฐธนภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยแถวขบวนรณรงค์ จำนวน 42 คัน ประกอบด้วย รถดับเพลิงและกู้ภัย รถสายตรวจเทศกิจ รถหน่วยแพทย์กู้ชีวิต รถตรวจการณ์ของสำนักการจราจรและขนส่ง รถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว รถสายตรวจ 191 รถบรรเทาสาธารณภัย 2 คัน รถตรวจการณ์ของกรมกิจการพลเรือนทหารบก และรถจักรยานยนต์นำขบวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.
พล.ต.อ.ชินทัต กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์ของพี่น้องประชาชน เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน และประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยไม่มีผู้ดูแลบ้านเรือน หากขาดความระมัดระวังอาจก่อให้เกิดเหตุอัคคีภัยได้ โดยในปีที่ผ่านมา พบเกิดเหตุอัคคีภัยสร้างความเสียหายต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้ กทม.ได้กำหนดมาตรการเพื่อดำเนินการป้องกันอัคคีภัยและลดอุบัติเหตุ พร้อมมอบหมายให้สำนักป้องกันฯ ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเทศกิจ สำนักอนามัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ฯลฯ ในการเพิ่มจุดเฝ้าระวังป้องกันอัคคีภัยช่วงคุมเข้ม 7 วันอันตราย ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงหลัก 35 สถานี และสถานีดับเพลิงย่อย 12 สถานี เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทั่วกรุงเทพฯ รวม 82 จุด
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 80 จุด กทม.จึงได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร ที่สวนลุมพินี ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน โดยมี ผู้บริหาร กทม.และข้าราชการฝ่ายประจำสลับหมุนเวียนคอยควบคุมและสั่งการดำเนินงาน อีกทั้ง ได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ให้อยู่ในสภาพใช้งานบริเวณจัดงานทั้ง 80 จุด โดยจะมีการดึงภาพซีซีทีวีทั้งหมดมายังศูนย์บัญชาการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยของประชาชน รวมถึงจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ของ กทม.ที่สำนักงานวิศวกรรมจราจร สำนักการจราจรและขนส่ง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังอุบัติเหตุและอุบัติภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
“กทม.คาดหมายจะให้การเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา โดยได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยประสานงานระหว่างกันอย่างเต็มที่” พล.ต.อ.ชินทัต กล่าว
