สธ. ย้ำไม่เคยปิดห้องฉุกเฉิน รพ. คาดผลสอบเด็กเสียชีวิตออก 2 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายในงานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการดำเนินงานระบบบริการห้องฉุกเฉิน  ซึ่งมีโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.)  จำนวน 150 คนเข้าร่วมประชุม ถึงกรณีสังคมออนไลน์แชร์ข่าวว่ามีการปิดห้องฉุกเฉินในรพ.สมเด็จพระยุพราชจังหวัดสระแก้ว จนส่งผลเด็กเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วประมาณ 2 สัปดาห์ คาดว่าจะทราบผล แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าโรงพยาบาลไม่มีทางปิดห้องฉุกเฉินได้ แต่น่าจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จึงได้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้น

นพ.เจษฎา  กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้  กระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดให้มีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินครบวงจรและระบบส่งต่อ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉิน  ลดอัตราการเสียชีวิต และลดความพิการของผู้ป่วยอุบัติเหตุและผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน และระบบรักษาพยาบาลฉุกเฉิน (Emergency Care System : ECS) มีมาตรฐาน เริ่มตั้งแต่การพัฒนาการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินนอกโรงพยาบาล (EMS) การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินในโรงพยาบาล (ER) การส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน (Referral System) และการจัดการสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข  โดยเฉพาะการพัฒนาห้องฉุกเฉินหรือห้องอีอาร์ ให้เป็นห้องฉุกเฉินคุณภาพ (ER QUALITY) ครบวงจร ของโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ให้เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย มีความพร้อมให้บริการเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และรับส่งต่อจากโรงพยาบาลเครือข่ายภายในจังหวัด ตลอดจนลดความแออัดของห้องฉุกเฉิน นอกจากนี้ จะต้องพัฒนาระบบบริการและเพิ่มศักยภาพในโรงพยาบาลทุกระดับ พร้อมรับคนไข้วิกฤติฉุกเฉินให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ประกอบด้วย การป้องกัน ณ จุดเกิดเหตุ การรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงจุดบริบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุหมู่

“นอกจากนี้ เรายังมีการพัฒนาอีอาร์คุณภาพมี 3 มาตรการ ได้แก่ 1.ลดความแออัดห้องฉุกเฉิน โดยจัดบริการคลินิกนอกเวลา หรือพรีเมียมคลินิกสำหรับผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยวิกฤติที่  ได้รับการรักษาด่วนไม่อยู่ห้อง ER นานกว่า 4 ชั่วโมง 2.จัดมาตรฐานคุณภาพและการบริการห้องฉุกเฉิน อาทิ มีเครื่องช่วยชีวิตที่ได้มาตรฐาน มีระบบคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินชัดเจน ให้ผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินได้รับการตรวจรักษาก่อนตามลำดับความเร่งด่วน มีระบบช่องทางด่วน (Fast Track) ในกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ จัดให้มีแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ต้องจัดแพทย์เฉพาะทางแต่ละสาขาเป็นแพทย์ที่ปรึกษากรณีจำเป็นตลอด 24 ชั่วโมง  เป็นต้น และ3.การพัฒนาบุคลากรแต่ละสาขาวิชาชีพให้เพียงพอ ความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ที่ห้องฉุกเฉินไม่ถูกคุกคาม ในปีนี้ ได้กำหนดให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ประเมินและปรับปรุงตนเองให้ได้ตามเกณฑ์ ทั้งนี้ประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือได้รับอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุทางหมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง”ปลัดสธ.กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image