มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 24 มิ.ย.2559
“ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เวทีประกวดนางงามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะช่อง 7 ก็มีคิวถ่ายทอดสดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมารวม 5 เวที ได้แก่ มิสทิฟฟานี่ นางสาวไทย มิสแกรนด์ไทยแลนด์ บิวตี้ลาโบ คิวตี้ คอนเทสต์ 2016 และเวทีไทยซูเปอร์โมเดล ซึ่งช่อง 7 จัดประกวดขึ้นเพื่อค้นหานักแสดง
นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) และประธานอำนวยการกองประกวดนางสาวไทย กล่าวว่า บริษัทได้สิทธิ์ในบริหารการประกวดนางสาวไทยจากสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งมีอายุสัญญา 2 ปี โจทย์หลักเจ้าของลิขสิทธิ์ คือ ปลุกเวทีประกวดนางสาวไทยให้กลับมาคึกคัก ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นของเวทีประกวดทั้งจากจำนวนเวทีและความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง อินเด็กซ์ฯจึงได้เปลี่ยนรูปแบบการประกวดใหม่ เปิดรับกว้างสำหรับผู้สมัครที่มีส่วนสูง 160 เซนติเมตรขึ้นไป และต่อยอดสู่รายการทีวี “นางสาวไทย เดอะ เรียลลิตี้” ออกอากาศช่อง 7
ส่วนการหาสปอนเซอร์สนับสนุนยากขึ้น ทำให้ต้องปรับรูปแบบ-แพ็กเกจโฆษณาให้หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้สนับสนุนด้วยการเพิ่มสิทธิพิเศษ เช่น ไท-อิน สินค้าในรายการเรียลิตี้ เป็นต้น คาดว่าจะมีรายได้จากจัดประกวดและรายการเรียลิตี้ประมาณ 40 ล้านบาท
ด้าน นายชยาภรณ์ บุนนาค โปรดิวเซอร์การประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 กล่าว ว่า ปัจจุบันสินค้าที่เข้าสนับสนุนประกวดเวทีนางงามเพิ่มขึ้นและไม่จำกัดเฉพาะสินค้าสุขภาพ หรือคลินิกความงามเท่านั้น แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ก็ให้ความสนใจมากขึ้น ขึ้นอยู่ว่าจะมองโอกาสในการต่อยอดธุรกิจจากการประกวดนางงามอย่างไร เช่น แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ อีเวนต์ เป็นต้น
ส่วน นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และผู้ก่อตั้งมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอกว่า ปีนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 ใหม่ โดยได้ขายลิขสิทธิ์การประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ประจำจังหวัดให้ผู้สนใจทั้ง 77 จังหวัด ผู้ชนะในแต่ละจังหวัด รวมทั้ง 77 คน จะได้เข้าประกวดบนเวทีใหญ่ และผู้ชนะประกวดจะเป็นตัวแทนไปประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับผู้สนับสนุนหลักมีสินค้าหลายกลุ่ม ทั้งโรงพยาบาล ประกันชีวิต และบริษัทเครื่องดื่ม
