มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 29 มิ.ย.2559
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในงานเสวนา “อนาคตประเทศไทย สร้างได้หรือโชคช่วย” ว่า หอการค้าเตรียมปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี ปี 2559 ใหม่ จากเดิมร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2.9 เนื่องจากผลกระทบจากการที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป กระทบกับมูลค่าการส่งออกประมาณ 2 ถึง 5 หมื่นล้านบาท ทำให้การส่งออกปีนี้จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.8 ปรับเป็นติดลบประมาณร้อยละ 2 โดยสินค้าที่จะได้รับผลกระทบคืออัญมณี ไก่แปรรูป ยานยนต์
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวจากกลุ่มอียูและอังกฤษที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยว่า ในช่วงไฮซีซั่นจะกลับมาอยู่ในระดับปกติหรือไม่ ดังนั้น หากภาครัฐต้องการให้เศรษฐกิจไทยโตในระดับร้อยละ 3 ถึง 3.5 จำเป็นต้องเพิ่มเม็ดเงินเข้าระบบประมาณ 2 ถึง 5 หมื่นล้านบาท เพื่อชดเชยเม็ดเงินในระบบที่หายไป
ด้านนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องโฟกัสว่าหลังจากนี้ จะชูอุตสาหกรรมใดให้โดดเด่น เพราะไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาพัฒนาแรงงานและทรัพยากรไปโดยใช้เหตุ
นอกจากนี้ ยังควรพัฒนาการเชื่อมโยงกับกลุ่มซีแอลเอ็มวีให้ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันไทยมองซีแอลเอ็มวีเป็นเพียงคู่ค้าและคู่แข่ง แต่ไม่ได้มองเรื่องการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อ และไม่ได้ให้น้ำหนักเป็นระบบเศรษฐกิจเดียวกัน เห็นได้จากการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนเพื่อหวังดึงแรงงานมาทำงานที่ประเทศไทยเท่านั้น
สำหรับกรณีที่อังกฤษออกจากอียู มองว่าส่งผลต่อเศรษฐกิจจริงของไทยเพียงร้อยละ 0.1 แต่จะกระทบในตลาดเงินตลาดทุนมากกว่า
