นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนยังค่าลง เบื้องต้นน่าจะเป็นผลดีกับการส่งออกของไทย และอาจจะได้เห็นเงินทุนไหลออกบ้าง ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคงจับตาดูว่ามากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจทำให้มาตรการที่ออกมาสะดุดได้
สำหรับเศรษฐกิจไทยปีหน้า คาดว่าเติบโตได้ 3.5 ถึง 4% หลังรัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ คาดว่าอยู่ที่ 4 ถึง 5% ใกล้เคียงกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ต้องระวังหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธนาคารต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ขณะที่การค้ากับต่างประเทศคงไม่สามารถพึ่งพากลุ่มประเทศตะวันตกได้อย่างเต็มที่ จีนจึงเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย แม้ว่าจีนจะมีความเสี่ยงของระดับหนี้ภาครัฐและเอกชนอยู่ในระดับสูง แต่ยังคงเชื่อว่ารัฐบาลจีนมีกลไกในการปรังโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ให้สามารถเติบโตได้ภายใต้การพัฒนาที่ดีขึ้น
