โบรกเกอร์คาด บจ.จ่ายปันผลเพิ่ม กลุ่มพลังงานเด่น(คลิป)

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำว่า หากนักลงทุนต้องการซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลควรซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลตั้งแต่ 3-4% ขึ้นไป เช่น บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จะจ่ายปันผลในระดับกว่า 5% หรือ 0.21 บาทต่อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในระดับสูงกว่า 5% หรือประมาณ 4 บาทต่อหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 4.9% ต่อหุ้น หรือประมาณ 0.19 บาทต่อหุ้น

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คาดว่าจ่ายปันผลในอัตรา 4.9% หรือ 0.19 บาทต่อหุ้น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะจ่ายปันผล 4.5% หรือประมาณ 0.33 บาทต่อหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 4.1% บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.8% หรือ 0.80 บาทต่อหุ้น บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.8% หรือ 0.45 บาทต่อหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.7% หรือประมาณ 2.66 บาทต่อหุ้น และบริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.6% หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่า กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2559 จะเติบโตกว่า 30% เนื่องจากบริษัทพลังงานมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน ส่งผลให้กลุ่มพลังงานจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นจากปี 2558 อย่างแน่นอน แต่ต่กลุ่มไอซีทีจะจ่ายในอัตราที่ลดลงเพราะกำไรได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นเพื่อรับปันผลแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาเป็นรายบริษัท และต้องดูนโยบายการจ่ายปันผลว่าจ่ายในอัตราเท่าใด บริษัทมีความมั่นคงในระยะยาวหรือไม่ เพราะหากไม่พิจารณาให้ดีมีโอกาสขาดทุนจากราคาหุ้นที่ปรับลดลง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image