นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (สตาร์ทอัพ) ซึ่งมีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังในเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา พบว่ามีสตาร์ทอัพลงทะเบียนกับ http://startupthailand.org ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จำนวน 1,700 ราย นอกจากนี้พบว่าผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่ ขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 658) พ.ศ. 2561 เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิเป็นระยะเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชี โดยจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2561 มียอดรวมจดทะเบียนและยื่นขอรับการรับรองกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แล้ว 163 ราย ซึ่ง สวทช.รับรองแล้ว 108 ราย และได้ขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับกรมสรรพากรแล้ว 88 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 5-6 ราย
นายพรชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีสตาร์ทอัพรับการสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านการร่วมลงทุนกับธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารกรุงไทย โดยอนุมัติ 49 ราย วงเงินรวม 1,305.4 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีการร่วมลงทุนแล้ว 16 ราย คิดเป็นเงินร่วมลงทุน 375.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่าการอนุมัติร่วมลงทุนเพิ่มขึ้น 3 ราย วงเงิน 41.7 ล้านบาท และมีการร่วมลงทุนเพิ่มขึ้น 73.2 ล้านบาท
นายพรชัยกล่าวว่า พบว่ามีจำนวนกลุ่มนักลงทุนที่ลงทะเบียนกับ Web Portal บนเว็บไซต์ http://startupthailand.org แล้วจำนวน 400 ราย โดยมี กิจการเงินร่วมลงทุน (VC) และทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน (PE Trust) ที่ขอรับทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 636) พ.ศ. 2560 เพื่อขอรับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้จากเงินปันผลและรายได้จากการโอนหุ้นของบริษัทเป้าหมาย เป็นระยะเวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชี ในเดือนกันยายน 2561 มีผู้จดแจ้งการเป็น VC และ PE Trust กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีทั้งสิ้น 32 ราย
