อสังหาฯเดินหน้าเปิดโครงการหรู ยันเก็บดาวน์สูงไม่กระทบ

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองยังมีต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุนโดยหวังผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า หรือหวังผลตอบแทนจากการขายต่อจากราคาที่เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เตรียมจะออกแนวทางกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยจะกำหนดการให้เงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน(แอลทีวี) สำหรับบ้านสัญญาที่สองขึ้นไป และบ้านราคามากกว่า 10 ล้านบาท ห้ามเกิน 80% หรือต้องเก็บเงินดาวน์ 20% นั้น มองว่า ลูกค้าของบริษัทมีทั้งกลุ่มที่ซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อการลงทุน แต่คาดว่าจะไม่มีผลกระทบกับบริษัทเพราะบริษัทมีการเก็บเงินดาวน์ลูกค้าในระดับสูงที่ 20% มาหลายปีแล้วสำหรับลูกค้าชาวไทย ขณะที่ชาวต่างชาติเก็บดาวน์ถึง 30% เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากลุ่มเก็งกำไร อย่างไรก็ดี กรณีที่มีงานเก็บเงินดาวน์เพิ่มมากขึ้นผู้ประกอบการที่มีเงินทุนไม่มากนักหรือสายป่านสั้นอาจจะพัฒนาโครงการใหม่ได้ช้าเพราะต้องใช้ระยะเวลาในการโอนมากขึ้นหากไม่ได้เตรียมการเก็บเงินดาวน์

โครงการเดอะ คอลเลคชั่น พร้อมวิวสวนเบญจกิติ

นายขจรศิษฐ์ กล่าวว่า บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ โครงการ เดอะคอลเลคชั่น เป็นโครงการระดับลักชัวรี่และราคาสูงที่สุดของบริษัท มูลค่า 4,800 ล้านบาท พื้นที่ 2 ไร่กว่า บริเวณถนนสุขุมวิท ซอย 16 เป็นอาคารสูง 41 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 443 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.2-45 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 2.4 แสนบาทต่อตารางเมตร โดยบริษัทมีต้นทุนที่ถูกกว่าทำให้สามารถขายถูกกว่าราคาตลาด 15-20% ซึ่งที่ปัจจุบันอยู่ที่ 3 แสนบาทต่อตารางเมตร คาดว่าโครงการนี้จะเป็นกลุ่มผู้ซื้ออยู่เอง 60% และกลุ่มซื้อลงทุน 40% ซึ่งการันตีค่าเช่า 5% ในช่วง 2 ปีแรก และอีก 1 โครงการ จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ เป็นโครงการมิกซ์ยูส คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีรัชดาภิเษก พื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง มูลค่าโครงการาว 4,000-5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2562 จะเปิดอีก 1 โครงการ ย่านพระราม9 มูลค่าราว 8,000 ล้านบาท เป็นโครงการมิกซ์ยูสพื้นที่กว่า 13 ไร่

“บรรยากาศการซื้อขายโครงการขณะนี้ยังได้รับการตอบรับดี โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย 7,000 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท” นายขจรศิษฐ์ กล่าว

ด้านนายบูรณิศ ยุกตะนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการในทำเลเขาใหญ่อย่างต่อเนื่องโดยมีที่ดินกว่า 2,500 ไร่ ล่าสุดได้พัฒนาโครงการ ภิรมย์ แอท วินยาร์ด เขาใหญ่ พัฒนาเป็นที่ดินสำหรับบ้านพักตากอากาศ(ยังไม่รวมค่าก่อสร้างบ้าน) โดยเฟสแรกจำนวน 22 แปลง มูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท ขายแล้ว 8 แปลง เฉลี่ยราคา 40-50 ล้านบาทต่อแปลง ส่วนเฟสที่สอง 50 แปลง มูลค่ารวม 900 ล้านบาท ขายแล้ว 14 แปลง เฉลี่ย 10 ล้านบาท และเตรียมจะเปิดเฟสที่ 3 จำนวน 45 แปลง ในเร็ว ๆ นี้ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่ดินในโครงการส่วนใหญ่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สองหรือหลังที่สาม ส่วนใหญ่ซื้อโดยใช้เงินสดซื้อ นอกจากนี้มีแผนจะขยายพัฒนาโครงการซีเนียร์คอมเพล็กซ์ในอนคต และจะขยายฐานลูกค้าเป็นกลุ่มกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image