นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นวันสุดท้ายของการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมตรี โดยมีการเสนอชื่อแคนดิเดตว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิง จึงมองว่าตลาดน่าจะตอบรับในแง่บวกมากขึ้น แม้เปิดตลาดอยู่ในแดนลบ ส่วนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศอย่างไรนั้น เบื้องต้นยังไม่แน่ใจ คาดกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ที่ 1,635-1,665 จุด
นายประกิต กล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลต่อบรรยากาศตลาดหุ้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ มาจากความกังวลของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่คาดว่าจะกลับมาอีกครั้ง แต่เบื้องต้นมองว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก อีกเรื่องคือ การที่มีกระแสข่าวออกมาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีแผนที่จะเจรจาร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ก่อนวันที่ 1 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า แต่เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการนัดพบปะกับนายคิม จ็องอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือไว้ก่อนหน้าแล้ว จึงมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะทับซ้อนกัน ซึ่งหลักจากหารือกับคิม จ็องอึนแล้วเสร็จ อาจจะมีการเจรจาร่วมกับสีจิ้นผิงอีกครั้งก็เป็นได้
“กลยุทธ์ที่อยากแนะนำ คือ เมื่อดัชนีหุ้นปรับตัวลงมาให้ซื้อเก็บไว้ โดยหุ้นในกลุ่มที่น่าสนใจก็จะเป็นกลุ่มสื่อสาร กลุ่มธนาคาร และกลุ่มโรงแรม อาทิ แอดวานซ์ (ADVANCED) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHBANK) Central Plaza Hotel อย่างไรก็ตามมองว่ายังมีเรื่องที่ต้องกังวลคือ เรื่องของการต้องระมัดระวังค่าเงินบาท ที่จะอ่อนค่าแรงมากกว่านี้ จะสะท้อนการไหลออกของเม็ดเงินลงทุน ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าช่วงบ่ายวันนี้ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดในแดนบวก”นายประกิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 10.04 น. เปิดตลาดที่ 1638.72จุด ลดลง 14.39 จุด จากปิดตลาดวันก่อนที่ 1,653.11 จุด โดยวันนนี้ดัชนีตลาดหุ้นแกว่งผันผวนทั้งบวก และปิดตลาดที่ 1,651.68 จุด ลดลง 1.43 จุด โดยมูลค่าซื้อขายรวมอยู่ที่ 56,862.15 ล้านบาท ดัชนีสูงสุดที่ 1,657.58 จุด และดัชนีต่ำสุดที่ 1,637.58 จุด โดยนักลงทุนสถาบันและบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่ต่างชาต และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ซึ่งการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นวันนี้เป็นผลจากประเด็นการเมืองในประเทศที่มีการประกาศตัวว่าที่ผู้ชิงแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยของพรรคการเมือง รวมทั้งการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน เริ่มกลับมาไม่แน่นอนกดดันตลาดอีกครั้ง รวมทั้ง แบงก์ชาติอินเดียที่เซอร์ไพรส์ตลาดลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 6.5% มาอยู่ที่6.25% เป็นการปรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นรายแรก หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หุ้นที่มีปริมาณซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ผู้ให้บริการ AIS บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH
