เรือคอสตา เวเนเซียเทียบท่าแหลมฉบัง เดินหน้าสร้างความสำราญให้ชาวเอเชีย

เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ท่าเรือแหลมฉบัง คอสตา ครุยส์ กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการท่องเที่ยวสัญชาติอิตาลี ฉลองการนำเรือคอสตา เวเนเซีย เรือสำราญลำใหม่เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นครั้งแรก

มร.โรเบอร์โต เวอร์ดิโน รองผู้จัดการประจำประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คอสตา กรุ๊ป กล่าวว่า เรือคอสตา เวเนเซีย ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บริการชาวเอเชียโดยเฉพาะ ไม่ใช่แค่การนำเสนอความเป็นอิตาเลียนเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวทางทะเลให้มากกว่าเก่า โดยเรือลำนี้จุผู้โดยสารได้มากกว่า 5,200 คน มีน้ำหนักรวม 135,500 ตัน ความยาว 323 เมตร นำศิลปะของเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาใช้ในการออกแบบภายในเรือ โรงละครภายในเรือได้รับแรงบันดาลใจจากเวเนเชียน ลา เฟนิช โรงละครโอเปร่าชื่อดังก้องโลกของเมืองเวนิส ห้องโถงจำลองจัตุรัสเซนต์มาร์ค และห้องอาหารยังจำลองบรรยากาศตรอกซอยของเมืองเวนิสอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีเรือกอนโดลาที่สร้างโดยช่างฝีมือเก่าแก่ของเมืองเวนิสประดับอยู่ในเรือคอสตา เวเนเซียนี้ด้วย

นอกจากสถาปัตยกรรมแล้ว คอสตา เวเนเซียยังมีแผนกสินค้าความงามที่ใหญ่ที่สุดในท้องทะเล กว่า 2,500 ตารางฟุต ขายสินค้าแบรนด์ดังกว่า 30 แบรนด์ และยังมีการแสดงที่สื่อถึงวัฒนธรรมของชาวอิตาเลียน และปาร์ตี้ในธีมต่างๆ อาทิ “โกลเด้น ปาร์ตี้” และ “คาร์นิวัล ออฟ เวนิส” ที่เป็นปาร์ตี้ซิกเนเจอร์ของเรือ ผู้โดยสารสามารถสวมหน้ากากเข้าร่วมงานเต้นรำในบรรยากาศ “เดอะ ซิตี้ ออฟ คานาลส์” ได้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมกลางแจ้ง สนามฟุตบอลกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์สโมสรยูเวนตุส ทีมดังในกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี สวนน้ำกลางแจ้งพร้อมสไลเดอร์ อุปกรณ์ออกกำลังกาย ศูนย์สุขภาพ เป็นต้น

โดยเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา คอสตา เวเนเซียได้ออกเดินทางครั้งแรกจากเมืองตริเอสเต ประเทศอิตาลี ตามรอยมาร์โค โปโล นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปตะวันออกกลาง เข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกไกล มาแวะที่ประเทศไทย ก่อนไปเทียบท่ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลารวม 53 วัน

Advertisement

ทั้งนี้ คอสตา กรุ๊ป กำลังดำเนินการสร้างเรือสำราญลำที่สองที่จะมาให้บริการในเอเชียอยู่ ที่เมืองมาร์เกรา ประเทศอิตาลี คาดว่าจะเริ่มทำการได้ในปีหน้า

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image