เมื่อวันที่ 23 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวันส่งผลทำให้ช่วงเย็นที่ผ่านมาได้เกิดเหตุพายุฝนพัดถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย มีพายุฝน ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บขนาดเท่าหัวนิ้วมือ โดยพายุลูกเห็บถือว่าตกครั้งแรกในปีนี้ของอำเภอแม่สาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันนานกว่า 40 วัน
นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าไปสำรวจความเสียหายและให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านในจุดที่จำเป็น เช่น ตัดกิ่งไม้ต้นไม้ที่หักโค่นลงมา เป็นต้น จากนั้นอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายคาดว่าส่วนใหญ่ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับหลังคาบ้าน ฝาบ้าน อาคารห้างร้านต่างๆ ที่จะได้รับผลกระทบจากพายุลมพัดแรง ซึ่งภายหลังจากลมทุเลาลงเจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างออกมาตัดกิ่งไม้และเก็บข้าวของต่างๆ อย่างขนานใหญ่
ล่าสุทดางทางนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ทั้ง 18 อำเภอเร่งทำการสำรวจพื้นที่ว่ามีพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบจากเหตุพายุลุกหเห็บในครั้งนี้บ้าง เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ฝ่ายกิจการชายแดน กล่าวว่าพายุลูกเห็บครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบปี ส่งผลทำให้มีต้นไม้และเสาไฟฟ้าถูกกระแสลมได้รับความเสียหลายจุด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความเสียหายอะไรบ้าง
