ทีมสัตว์แพทย์ดูแลพะยูนน้อย “มาเรียม” ป้อนนมวันละ 2 ลิตร เฝ้าระวังความสะอาด
หลังจากมีการพบลูกพะยูน เพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี พลัดหลงจากแม่และว่ายน้ำตามเรือเข้าเขตจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)นำตัวมาดูแลเพื่อฟื้นฟูสภาพแบบธรรมชาติ บริเวณจุดชมพะยูน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นั้น
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่บริเวณอ่าวดุหยง ใกล้เขาบาตู หมู่ 4 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ทีมสัตว์แพทย์ทั้งจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และทีมสัตว์แพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และกลุ่มพิทักษ์ดุหยง ร่วมกันติดตามเฝ้าระวัง และอนุบาลน้องมาเรียม ลูกพะยูนกำพร้าแม่ ด้วยตรวจสุขภาพ และป้อนนม จำนวน 2,300 มิลลิลิตร รวมทั้งหญ้าทะเลสด จำนวน 1 ขีด และพาน้องมาเรียมว่ายน้ำออกกำลังกายไปหาแหล่งหญ้า เพื่อให้น้องมาเรียมฝึกกินหญ้าทะเลด้วยตัวเอง
ทั้งนี้แต่ละวันในการให้น้องมาเรียมเกาะแม่ส้มไปกินหญ้าทะเลวันละ 2 รอบๆละประมาณ 1 – 2 ชม. เพื่อฝึกให้น้องมาเรียมกินหญ้าทะเลด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ทีมสัตว์แพทย์พบว่าน้ำหนักน้องมาเรียมต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบกับอายุ โดยขณะนี้น้ำหนักน้องมาเรียม จำนวน 29 กิโลกรัมเศษ ทางทีมแพทย์เตรียมเพิ่มปริมาณนม และเพิ่มหญ้าทะเลให้มากขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มเวลาป้อนนม และหญ้าทะเลให้มากขึ้น จากเดิมตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น.เป็นเริ่มป้อนนม และหญ้าทะเลตั้งแต่เวลา 07.00 – 21.00 น. รวมทั้งให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น
นายสุวิทย์ สารสิทธิ์ อาสาสมัครกลุ่มพิทักษ์ดุหยง เกาะลิบง กล่าวว่า อีกหน้าที่ของตนคือการล้างขวดนมเพื่อนำไปป้อนให้กับน้องพะยูนมาเรียม การล้างจะต้องผ่านขั้นตอนผ่านการล้างและนำไปนึ่ง เพราะต้องสะอาดและปลอดภัยที่สุด ซึ่งพะยูนน้อยมาเรียมได้รับสิ่งสกปรกเข้าไปจึงต้องล้างขวดนมให้สะอาดที่สุดทุกวัน สำหรับปริมาณนมที่ให้ต่อขวด ประมาณ 150 ซีซี เช้านี้ให้ไปแล้ว 6 ขวด แต่ละวันจะให้นมประมาณ 2 ลิตรเศษ ส่วนผสมจะประกอบด้วยนมแพะ วิตามินและน้ำมัน
ช่วงแรกๆตนจะป้อนนมให้กับน้องมาเรียมเอง ช่วงหลังมีนักศึกษาน้องอาสา และทีมงานสัตวแพทย์ ตอนนี้ตนเองคิดว่าน้องมาเรียมเหมือนลูกเหมือนเด็ก เพราะถ้ากินนมเสร็จให้นอนก็จะนอนบางช่วงนอนเป็นชั่วโมง ปล่อยให้เล่นรวมถึงการเรียนรู้เรื่องการว่ายน้ำและฝึกกินหญ้าทะเล คณะต้องพาออกไปในแหล่งหญ้าทะเลให้น้องมาเรียมว่ายและกินหญ้าทะเลไปด้วย
จากนั้นทีมงานได้ร่วมประชุมวางแผนการอนุบาลและเฝ้าติดตามภัยคุกคามลูกพะยูนในช่วงมรสุม บริเวณเขาบาตู ทั้งนี้ จะมีการจัดเวรยามเฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง ,การวางทุ่นกำหนดพื้นที่คุ้มครองพิเศษแนวเขตอนุบาลน้องมาเรียมเป็นการเฉพาะ โดยจะสั่งห้ามไม่ให้มีกิจกรรมใดๆ และห้ามเรือทุกชนิดเข้าบริเวณดังกล่าว ,การให้ 2 กรม และทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งทีมสัตว์แพทย์เข้ามาเพิ่มเพื่อหมุนเวียนกันทำงานวันละ 2 ผลัด เช้า ,บ่าย เพื่อเพิ่มเวลาการให้นม และหญ้าทะเล เพื่อให้ร่างกายน้องมาเรียมเจริญเติบโตสมวัย หลังพบน้องมาเรียมน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และประสานขอ
ทั้งนี้ แผนทำงานรับมือในช่วงที่เกิดมรสุมและคลื่นลมหนักมีทั้งหมด 3 วิธี คือ1.ทำกระชังลอยน้ำให้อยู่ในธรรมชาติ 2.ทำบ่อเคลื่อนที่หรือแอ่งน้ำชั่วคราวไว้สำหรับการอนุบาลป้องกันการถูกคลื่นซัดน้องมาเรียม และป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับเจ้าหน้าที่ และ 3.หากมีมรสุมหนักจะเคลื่อนย้ายน้องมาเรียมไปอนุบาลที่ห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– รับเลี้ยง’มาเรียม’พะยูนน้อย 1 ปีจนกว่าจะโต หลังพลัดหลงกับแม่
– มาเรียมจอมซน ว่ายน้ำเล่นเพลิน น้ำลดกลับไม่ทันเกยตื้นติดแหง็ก เกือบตาย โชคดีจนท.เห็นก่อนช่วยทัน!!(ภาพชุด)
– น้ำตาไหล สงสาร ‘เจ้ามาเรียม’ คิดว่าเรือแคนูเป็นแม่ รีบว่ายน้ำเข้าไปกอด (ชมคลิป)
– มาเรียมอ้อน “หมอล๊อต” คิดว่าแม่กำลังให้นม ซุกอกเคลิบเคลิ้ม หลับตาพริ้ม
