หุ้นดีดแรงรับ ครม.เคาะมาตรการกระตุ้น ศก. ปิดตลาดวันสุดท้ายบวก 27.37 จุด

วันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 1,619.45 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,599.42 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,631.40 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 27.37 จุด หรือ 1.71% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,632.42 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,607.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 66,019.24 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 7,716.26 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,722.70 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 5,068.91 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 924.66 ล้านบาท

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทุนไทย ถือว่าปัจจัยภายนอกมีผลค่อนข้างน้อย แต่ยังมีแรงความกังวลในตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ เนื่องจากจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีภาพของดัชนีปรับลดลงเกิดขึ้น โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดปรับเพิ่มขึ้นมาได้ เป็นผลมาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลักคือ ตอบรับการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจได้มีการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา วงเงินรวมกว่า 3 แสนล้านบาท ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวก โดยเฉพาะหุ้นที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงหุ้นธนาคารที่พบว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามาหลายตัว

นายมงคลกล่าวว่า สำหรับปัจจัยภายนอกหลักๆ อย่างเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) พบว่าจะมีการเจรจาสงครามการค้ากันอีกครั้งในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ แต่ก็ยังเป็นภาพที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีสหรัฐค่อนข้างมาก และก็ไม่แน่ใจว่าจีนจะสามารถรับข้อตกลงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้หรือไม่ โดยต้องติดตามว่าจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ ซึ่งหากสามารถตกลงกันได้ภาพรวมก็จะดีขึ้น โดยเคทีบีได้ประเมินว่า สหรัฐและจีนน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ หรืออาจจะเป็นในเดือนกันยายนนี้ แต่ภาพคงไม่ได้จบลงด้วยการยกเลิกกำแพงภาษีระหว่างกันทั้งหมด แต่อาจจะพยายามหาจุดที่สามารถยืนร่วมกันให้ได้เท่านั้น

“อีกเรื่องเป็นปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐจะมีการประชุมกันภายในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ ที่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง เนื่องจากครั้งล่าสุดที่ปรับลดลงแต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะลดลงอีกครั้ง ทำให้เห็นภาพของการที่ตลาดหุ้นต้องเผชิญภาวะแรงขายมาโดยตลอด ซึ่งหากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งจริง จะเป็นการส่งสัญญาณถึงภาวะดอกเบี้ยขาลง และเชื่อว่าจะส่งผลดีกับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เข้ามาเพิ่มขึ้น หลังจากกระหน่ำขายหุ้นไปอย่างรุนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เฟดไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยล่าสุด สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนสัปดาห์หน้า มองว่าภาพขณะนี้เป็นภาวะของปัจจัยแบบในบวกนอกลบ นักลงทุนจะต้องติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของประเทศไทย ที่จะประกาศออกมาภายในสัปดาห์หน้า โดยให้กรอบเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 1,610-1,650 จุด” นายมงคลกล่าว

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image